ภูเก็ตออกคำสั่งควบคุมการนำเรือประมงออกจากท่าเรือและชายฝั่ง

ภูเก็ต - สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต เปิดเผย คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 7323/2563 เรื่อง มาตรการสกัดกั้น เฝ้าระวัง ควบคุมพื้นที่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในการนำเรือออกจากท่าเรือและชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต

ข่าวภูเก็ต

วันพุธ ที่ 23 ธันวาคม 2563, เวลา 13:16 น.

แฟ้มภาพ ข่าวภูเก็ต : เอกภพ ทองทับ

แฟ้มภาพ ข่าวภูเก็ต : เอกภพ ทองทับ

วันนี้ (23 ธันวาคม 2563) จังหวัดภูเก็ตได้มีคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 7323/2563 ลงนามโดย นายณรงค์วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีสาระสำคัญดังนี้

ตามที่ได้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา – 2019 ในจังหวัดสมุทรสาคร และในพื้นที่ต่าง ๆ นั้น เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เห็นควรกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการนำเรือออกจากท่าเรือและชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต

โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 57/2563 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2563 จึงกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการนำเรือออกจากท่าเรือและชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต ดังต่อไปนี้

ให้เรือประมงที่ออกจากท่าเรือและชายฝั่งภายในจังหวัดภูเก็ต เมื่อแจ้งออกจากท่าเรือหรือชายฝั่ง ณ สถานที่ใด ต้องแจ้งเข้าท่าเรือหรือชายฝั่ง ณ สถานที่ที่แจ้งออกนั้น

ห้ามเรือประมงที่ออกจากท่าเรือและชายฝั่งในจังหวัดอื่น เข้าจอดเทียบท่าในจังหวัดภูเก็ต รวมถึงกรณีนำเรือประมงบรรทุกมากับรถบรรทุกมาลงท่าเรือภูเก็ต และชายฝั่งภายในจังหวัดภูเก็ต เพื่อประกอบกิจการประมง

ให้ผู้ประกอบการ เจ้าของเรือ นายท้ายเรือ เข้มงวดในมาตรการป้องกันโรคระบาด โดยให้เจ้าหน้าที่ประจำเรือ แรงงาน ปฏิบัติการตามแนวทางการเฝ้าระวัง สร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ต่อตนเอง และคนรอบข้าง รักษาระยะห่าง สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า รักษาความสะอาดด้วยเจลล้างมือหรือแอลกอฮอล์ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ให้ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดภูเก็ต ศรชล.ภาค 3 สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต  สำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต ศรชล.จังหวัดภูเก็ต และด่านตรวจประมงภูเก็ต เป็นผู้ตรวจท่าเรือ และให้หน่วยงานข้างต้นร่วมกำหนดมาตรการการลาดตระเวนทะเลอาณาเขตรวมถึงการประสานแจ้งกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานรับผิดชอบท่าเรือชายฝั่งตะวันออกหรือต้นทาง เพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว จนกว่าจะมีคำสั่งผ่อนคลาย

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และอาจเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1)

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น



 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่