นายภัคพงศ์ กล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 เขตพื้นที่ตำบลกะรน และตำบลราไวย์ รวมถึงการปิดบริการนำเที่ยวและผู้ประกอบการนำเที่ยว
"ภูเก็ต มีประชากรแฝงและนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งจุดความเสี่ยงของโรคโควิด-19 อยู่ที่ซอยบางลา ป่าตอง ในพื้นที่ดังกล่าวนี้ต้องได้รับการสอบสวนโรค"
“มาตรการที่จังหวัดภูเก็ตจะดำเนินการต่อไป คือ ปิดเส้นทาง เข้า-ออก ป่าตอง ทุกเส้นทาง ยกเว้นรถที่ขนสินค้าจำเป็นแก่การอุปโภค บริโภค และอื่น ๆ ที่จำเป็น ให้สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าวัดไข้ทุกคนทุกครัวเรือนที่ป่าตอง คนที่มีอาการไข้ จะถูกแยกกักตัวในสถานที่ที่กำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยภาครัฐจะจัดอาหารไปดูแลให้เทศบาลป่าตอง ทำความสะอาดฉีดฆ่าเชื้อ สถานที่อาคารบ้านเรือนทุกหลังในเขตป่าตอง” นายภัคพงศ์ กล่าว
“ในส่วนพนักงานโรงแรมที่ว่างงานและจะกลับภูมิลำเนา แจ้งมาได้ที่ฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต ภายในวันที่ 6 เม.ย. 63 ขอความร่วมมือประชาชน ไม่ออกนอกเคหสถาน เพื่อป้องกันการกระจายโรคลดการแพร่ไปยังคนอื่น”
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากนี้ ทีมสาธารณสุขจากส่วนกลางจะลงพื้นที่ป่าตอง ตรวจคัดกรองกลุ่มเสียง PUI ประมาณ 1,000 คน เพื่อตรวจว่ามีผลบวกหรือลบในสัปดาห์หน้า โดยก่อนหน้านี้ได้ตรวจคัดกรองไปแล้วกว่า 200 คน และที่ประชุมได้หารือโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 รองรับได้จำนวน 110 เตียงที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต
“ทั้งนี้ มาตรการต่าง ๆ ที่จะดำเนินการต่อไปนั้น ทางจังหวัดภูเก็ตจะมีประกาศยืนยันออกให้ประชาชนรับทราบในโอกาสต่อไป” นายภัคพงศ์ กล่าว
ในส่วนของเทศบาลเมืองป่าตอง ได้มีการดำเนินการเชิงรุก ลงพื้นที่ตรวจคัดกรองชุมชนในพื้นที่ พร้อมทั้งฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคไปตามถนนสายต่าง ๆ (อ่านเพิ่มเติม คลิก) และมีการตั้งโรงครัวเพื่อปรุงอาหารและนำส่งตามครัวเรือน ภายหลังจากที่ออกมาตรการให้ทุกคนอยู่ในบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรค โดยเน้นย้ำว่าต้องเร่งดำเนินการในเชิงรุก เพราะหากตรวจเจอเร็วก็จะสามารถส่งตัวรักษาได้เร็วขึ้น เพื่อเป็นการสะกัดกั้นการแพร่กระจายของเชื้อโรคต่อไป รวมถึงสั่งตั้งจุดตรวจทางขึ้น-ลงป่าตอง 3 ทางหลัก ไม่สวมหน้ากากไม่ให้เข้าป่าตอง (อ่านเพิ่มเติม คลิก)