หลังทราบเรื่อง พ.ต.ท.สันติ รายงานให้ พ.ต.อ.จีระศักดิ์ เสียมศักดิ์ ผกก.สภ.โคกกลอย จากนั้นจึงรีบเดินทางไปพร้อมกับหน่วยกู้ภัย อบต.โคกกลอย จนท.หน่วยกู้ชีพ-ชุดประดาน้ำมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต และกู้ภัยสารสินไปยังที่เกิดเหตุ บนสะพานขาเข้าจังหวัดภูเก็ต พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน 1 กค-1574 ภูเก็ต จอดทิ้งไว้ในเขตจังหวัดพังงาก่อนถึงกึ่งกลางสะพานประมาณ 100 เมตร ใกล้กันพบรองเท้าแตะสีดำถอดวางอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ ในตะกร้าหน้ารถมีน้ำดื่ม 2 ขวด แซนด์วิช 1 ชิ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบเพียงว่าคนขับเป็นชายสวมเสื้อเขียวอ่อนได้กระโดดลงจากบนสะพาน ลอยจมหายไปตามกระแสน้ำที่หมุนทางทิศตะวันตก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมใช้เรือออกค้นหาทั้งบนผิวน้ำ และใช้ชุดประดาน้ำได้ดำค้นหาใต้น้ำ ก่อนจะยุติการค้นหาชั่วคราวในเวลา 18.00 น. และเตรียมค้นหาต่อในเช้าวันรุ่งขึ้น
พ.ต.อ.จีระศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้อง CCTV บนสะพาน พบเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ขับมาจอด และคนขับได้นั่งบนสะพานก่อนจะกระโดลงไปในทะเล จากนั้นได้ตรวจสอบจากทะเบียนรถ พบว่าเป็นของนายยาน จอกทอง ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต สอบถามทราบว่าผู้ที่นำรถมาใช้คือ นายวินัย จอกทอง อายุ 37 ปี บุตรชาย ซึ่งมีอาการทางจิต และได้ขับขี่รถออกจากบ้านมาตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของวันเกิดเหตุ ซึ่งไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ ซึ่งน่าเชื่อว่าจะเป็นคนเดียวกับชายที่กระโดดลงไป โดยนายยานกล่าวว่าลูกชายชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และมีอาการหวาดระแวงคนในบ้านตลอดเวลา
จากนั้นทางญาติได้เข้ามาพบพนักสอบสวน และยืนยันว่ารองเท้า และรถเป็นของนายวินัยจริง พร้อมเปิดเผยว่ามีจดหมายเขียนทิ้งไว้ว่าน้อยใจคนในบ้าน เพราะไม่เข้าใจตัวเอง
ด้านนายไสว ผายสุวรรณ ชาวบุรีรัมย์ที่มาทำงานก่อสร้างในจังหวัดภูเก็ตและมาตกปลาอยู่บนสะพานสารสิน เปิดเผยว่า ไม่ทราบว่ามีคนกระโดน้ำจากบนสะพาน แต่ขณะตกปลาอยู่ได้พบเห็นคนลอยตามกระแสน้ำมาจากใต้สะพาน เป็นผู้ชายสวมเสื้อสีเขียว แต่ไม่มีอาการส่อว่าจะจมน้ำหรือให้ช่วยชีวิตแต่อย่างใด จึงคิดว่าคงคนว่ายน้ำเล่น และก็ไม่ได้สนใจ ก่อนจะลอยเรื่อย ๆ จนสุดสายตา และมาทราบภายหลังว่าเป็นคนที่กระโดดน้ำ และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีรายงานว่าพบตัวนายวินัยแต่อย่างใด
