ร.ล.ศรีราชาช่วยเรือสำราญเบลเยียมเกยหินท้องทะลุ ประคองเข้าท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต

ภูเก็ต - ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 3 ส่งเรือหลวงศรีราชาจัดเตรียมชุดป้องกันความเสียหายและส่งทีมเข้าช่วยเหลือบนเรือ MV La Belle des Océans ซึ่งเป็นสำราญขนาดใหญ่ ภายหลังจากประสบเหตุชนหินเสียหาย ช่วยประคองเรือท่องเที่ยวกลับเข้าจังหวัดภูเก็ต พร้อมทั้งประสาน ปภ.,เจ้าท่า, ทีมแพทย์ฉุกเฉินชุดป้องกันความเสียหาย และชุดประดาน้ำไว้ที่ท่าเรือเมื่อเรือเข้าเทียบท่า โดยเรือได้เข้าเทียบท่าอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2562, เวลา 15:36 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

วันนี้ (25 พ.ย.) พลเรือโท เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล.เขต 3 กล่าวว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ศรชล.ภาค 3 ได้รับรายงานจากบริษัทเจ้าของเรือว่า เรือโดยสารท่องเที่ยวเป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ ชื่อ MV La Belle des Océansเรือสัญชาติเบลเยี่ยม ขนาด4,000ตัน เส้นทางเกาะลันตามายังเกาะภูเก็ต ประสบอุบัติเหตุ ชนหินใกล้เกาะปิดะนอก ท้องเรือทะลุ เกยตื้นบริเวณ เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ขอความช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ซึ่งจากการได้ประสานงานกับ บริษัท ภูเก็ตชิปปิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนของเรือลำดังกล่าว ยืนยันว่ามีผู้โดยสารในเรือเป็นนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสจำนวน 78 คน เยอรมัน 1 คน และลูกเรืออีก 70 คน (เบื้องต้นรายงานมีจำนวนนักท่องเที่ยวและลูกเรือรวม 150 คน เป็นชาวฟิลิปปินส์ 60 คน โครเอเชีย 20 คน รวมถึงลูกเรืออีกราว 70 คน คลิก)

พล.ร.ท. เชิงชาย กล่าวว่า ศรชล.ภาค 3 ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและส่งเรือหลวงศรีราชาเข้าให้การช่วยเหลือกลับเข้าฝั่ง โดยเรือมีน้ำเข้าเรือเล็กน้อย เรือได้ทำการสูบน้ำออกตลอดเวลา เรือมีอาการเอียงซ้ายสามารถควบคุมน้ำไว้ได้ แต่เรือไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ จากการตรวจสอบพบว่า เรือมีสภาพเอียงประมาณ 30 องศา เนื่องจากน้ำเข้าเรือ จากท้องเรือทะลุ และได้ลำเลียงนักท่องเที่ยวทั้งหมดขึ้นบก จากนั้น ส่งทีมงานชุดป้องกันความเสียหายขึ้นสำรวจบนเรือ ส่งเจ้าหน้าที่ร.ล.ศรีราชา และเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าขึ้นตรวจดูตามกฎหมายของเจ้าท่า และส่งทีมประดาน้ำตรวจดูความเสียหายใต้ท้องเรือ เพื่อตรวจดูรอยฉีกขาดจากการเกยตื้น และสามารถซ่อมแซมฉุกเฉินเบื้องต้นได้ และตรวจสอบสาเหตุการเกยตื้นจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรือ โชคดีที่สามารถนำเรือกลับเข้ามาเทียบท่าได้อย่างปลอดภัย

“รายละเอียดเรือลำดังกล่าวเป็นเรือสัญชาติเบลเยียม ได้รับนักท่องเที่ยวจากประเทศสิงคโปร์ เดินทางเข้าท่องเที่ยวที่จังหวัดกระบี่และเดินทางต่อมาที่ภูเก็ต เพื่อกลับประเทศสิงคโปร์ เป็นเรือท่องเที่ยวจากสิงคโปร์ที่เดินเรือเข้ามาเป็นประจำ” พล.ร.ท. เชิงชาย กล่าว

“หลังจากนี้ ทางศรชล.ภาค 3 จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจจุดที่เรือลำดังกล่าวเกยตื้นและชนหิน เป็นจุดที่มีเครื่องหมายที่แจ้งในพื้นที่อันตรายหรือไม่ ถ้ามีอยู่แล้วต้องดูสาเหตุเรือเข้าเกยตื้นได้อย่างไร เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีเรือขนาดใหญ่เกยตื้นในบริเวณนั้น ลำนี้เป็นเรือต่างชาติอาจไม่มีความชำนาญในการเดินเรือในบริเวณนั้น ซึ่งในอนาคตจะต้องมีการทำเครื่องหมายเพื่อดูแลพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต้องมีการเตรียมหาทางป้องกันแก้ไขไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่รัฐบาลสนับสนุนให้เรือสำราญขนาดใหญ่ เข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง” ผบ.ทรภ.3 กล่าว

นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเสริมว่า “ในนาม ศรชล.จังหวัดภูเก็ต การท่องเที่ยวการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว เป็นยุทธศาสตร์ของประเทศและของภูเก็ต กรณีนี้ต้องสำรวจความเสียหายของเรือ การดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและค้นหาข้อเท็จจริง ความประมาทหรือไม่ในเรื่องคดีอาญาต้องมีผู้เชี่ยวชาญจากกองทัพเรือเข้าตรวจสอบ”
ทางด้านนายวิวัธน์ ชิดเชิดวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต กล่าวว่า เจ้าท่าภูเก็ตได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในความเสียหายของเรือ และมีมาตรการควบคุมกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด

“โดยเรือขอซ่อมชั่วคราวที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ก่อนที่จะไปขึ้นคานที่เมืองท่าของปีนังหรือสิงคโปร์ ซึ่งการจะให้เรือออกได้นั้น ทางเจ้าท่าภูเก็ตต้องตรวจดูว่าเรือสามารถออกจากท่าเรือน้ำลึก ไปถึงบริเวณท่าเรือที่จะซ่อมแซมได้หรือไม่ ถ้าพบว่าเรือยังไม่มีความปลอดภัยจะไม่ให้เรือออกไปจากท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต” นายวิวัธน์ กล่าว

นายประโมค อุราวรรณ ผู้แทน บจก.ภูเก็ตชิปปิ้ง กล่าวว่า “ตามแผนที่การเดินเรือในจุดนั้นไม่มีมาร์คกิ้งว่ามีหินโสโครกอยู่ตรงนั้น ชาวบ้านในพื้นที่จะรู้แต่เรือต่างประเทศไม่เชี่ยวชาญ ไม่รู้ว่ามีหินโสโครกจึงเกิดประสบเหตุ เมื่อเรือได้รับการช่วยเหลือเข้าเทียบท่าภูเก็ตปลอดภัย ทางบริษัทดูแลเฉพาะเรือ การซ่อมแซมเรือจะไปซ่อมเรือที่สิงคโปร์เท่านั้น”

“ส่วนการทำทัวร์ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เป็นของบริษัท เอเชี่ยนเทรล จำกัด ได้จัดรถทัวร์รับผู้โดยสารทั้งหมดไปส่งที่โรงแรมภูคีธาราแล้ว เพื่อขึ้นเครื่องบินกลับประเทศสิงคโปร์ต่อไป” นายประโมคกล่าว 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่