โดยมี นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พร้อมด้วย นพ.ฐากูร พูนธนานิวัฒน์กุล เป็นผู้ให้ข้อมูลในงานแถลงข่าว
"โรคอ้วนเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันพบว่า ประชากรไทย 1 ใน 10 คนมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ ได้แก่ ปัญหาทางกายภาพ เช่น ภาวะปวดเข่า ปวดสะโพก ปวดหลัง ภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับ รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเมตาบอลิก เช่น โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด ปัญหาทางจิตใจและสังคม เช่น การถูกล้อเลียน การถูกเลือกปฏิบัติ โอกาสทางเศรษฐกิจลดลง ส่งผลต่อสุขภาพจิตและอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า" นพ.ฐากูร กล่าว
แนวทางการรักษา
แนวทางการรักษาโรคอ้วนมีหลายวิธี ตั้งแต่การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การใช้ยา ไปจนถึงการผ่าตัดลดน้ำหนัก ซึ่งเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับผู้ที่มีภาวะอ้วนรุนแรง โดยการผ่าตัดจะช่วยลดขนาดของกระเพาะอาหารหรือปรับเปลี่ยนการดูดซึมสารอาหาร ส่งผลให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมน้ำหนักได้อย่างยั่งยืน
ช่วงเวลา 10 ปี รพ.วชิระภูเก็ต รักษาผู้ป่วยมากกว่า 3,400 ราย
โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตได้ดำเนินโครงการ “การผ่าตัดลดน้ำหนักโดยวิธีการส่องกล้อง” ตั้งแต่ปี 2558 และตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ได้ให้การรักษาผู้ป่วยมากกว่า 3,400 ราย ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์สหสาขาวิชาชีพ ได้แก่ ศัลยแพทย์ อายุรแพทย์ต่อมไร้ท่อ นักโภชนาการ จิตแพทย์ วิสัญญีแพทย์ และนักกายภาพบำบัด
จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตได้รับการรับรองมาตรฐานจาก Surgical Review Corporation (ประเทศสหรัฐอเมริกา) ว่าเป็น สถาบันที่เป็นเลิศด้านการผ่าตัดรักษาโรคอ้วน ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงมาตรฐานและความปลอดภัยของการรักษา การได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากลในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตให้เป็น ศูนย์กลางด้านการแพทย์เฉพาะทางและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก ซึ่งสอดคล้องกับ ยุทธศาสตร์สุขภาพจังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2566 - 2570 ที่มุ่งเน้นให้ภูเก็ตเป็นเมืองแห่งสุขภาพดีถ้วนหน้า พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์มูลค่าสูง
โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพบริการทางการแพทย์ต่อไป เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยโรคอ้วนทุพพลภาพ และเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
