รพ.สิริโรจน์ภูเก็ต จัดแถลงข่าวชี้แจงยืนยันทีมแพทย์ได้ทำการรักษานทท.หนุ่มชาวอังกฤษจนปลอดภัย

จากกรณีการเสนอข่าวในเว็บไซต์แมนเชสเตอร์อีฟนิงนิวส์ ภายใต้พาดหัว “ลูกชายฉันถูกทิ้งให้ตายที่ประเทศไทย ฉันแค่อยากให้ลูกกลับบ้าน” (อ่านเพิ่มเติม คลิก) ในวันที่ 9 พ.ค. 60 เปิดเผยบทสัมภาษณ์ครอบครัวของนายเจค็อบ ทอนคิน (Mr. Jacob Tonkin) อายุ 23 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษซึ่งเดินทางมายังประเทศไทย ก่อนประสบเหตุรถชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยมารดาของนายเจค็อบ ระบุว่าลูกชายถูกปล่อยให้นอนรอความตายเพราะโรงพยาบาลไม่ยอมรักษา หลังจากบริษัทประกันปฏิเสธที่จะจ่ายเงินช่วยเหลือ จนทำให้มารดาและครอบครัวต้องมีการระดมทุนเพื่อนำไปเป็นค่ารักษาพยาบาลให้แก่บุตร

โดยในเนื้อหาบางส่วนในข่าวระบุว่า ชายหนุ่มนักท่องเที่ยวที่ถูกทิ้งไว้ให้รอความตายหลังจากประสบอุบัติเหตุชนแล้วหนีในประเทศไทยร้องขออย่างสิ้นหวังหลังจากที่ประกันปฏิเสธการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ซึ่งนายเจค็อบเอง ยังคงอยู่ในอาการวิกฤติในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อคืนวันอาทิตย์ตามเวลาประเทศอังกฤษ

เขาได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการผายปอดจากผู้หญิงรัสเซียคนหนึ่งที่วิ่งเข้ามาช่วยได้ยินเสียงอุบัติเหตุก่อนที่เข้าจะถูกส่งไปที่โรงพยาบาลสิริโรจน์ ภูเก็ต

เจน อายุ 62 ปี มารดาของเจค็อบ กล่าวว่า เขาทรมานจากการบาดเจ็บสาหัสที่ศีรษะและยังอยู่ในการทดสอบระบบประสาท เขาถูกทิ้งเอาไว้ทั้งที่ขายังหัก และนี่คือการขาหักครั้งที่สองของเขา แต่แพทย์ปฏิเสธที่จะทำการรักษาจนกว่าจะได้รับการรับรองเรื่องค่าใช้จ่าย

เจนกล่าวต่อว่า ลูกชายของเธอ ซึ่งเป็นนักเรียนเก่าจากนุตส์ฟอร์ดได้เดินทางทั่วทวีปเอเชียในช่วงสองปีที่ผ่านมาและมีประกันการเดินทางเสมอ ที่ผ่านมาลูกชายของเธอได้บาดเจ็บข้อศอกหักและลูกชายไม่ได้เรียกร้องใดๆ และบริษัทประกัน InsureandGo ได้ดูแลค่ารักษาพยาบาลโดยปราศจากปัญหา

แต่ครั้งนี้บริษัทประกันปฏิเสธการดูแลด้านค่ารักษาพยาบาลหลังจากที่เธอติดต่อไปโดยอ้างว่าการเกิดอุบัติเหตุของลูกชายเธอครั้งนี้เกิดจาก “การขับรถโดยประมาท”

จากนั้น เมื่อวันที่ 11 พ.ค. เวลา 16.30 น. คณะแพทย์ได้ทำการแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ณ โรงพยาบาลสิริโรจน์

นายแพทย์ดุลย์ ดำรงศักดิ์ รองประธานคณะผู้บริหารโรงพยาบาลกรุงเทพกลุ่มภาคใต้และผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิริโรจน์ กล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงจากเรื่องดังกล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่านายเจค็อบ ผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต ในวันที่ 8 พ.ค. รายละเอียดตามที่รับรายงานทราบว่าเกิดอุบัติเหตุรถตู้มาชนท้ายมอเตอร์ไซด์ คันที่นายเจค็อบ นั่งซ้อนท้าย และรถพยาบาลฉุกเฉินมูลนิธิกุศลธรรมนำส่งผู้ป่วย มายังโรงพยาบาลสิริโรจน์ เบื้องต้นแพทย์ได้ทำการตรวจร่างกาย และมีการส่งตรวจทางรังสีวินิจฉัย พบว่า ผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บที่ศรีษะและสมอง ร่วมกับมีกระดูกขาขวาหัก

ทางโรงพยาบาล ได้รับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่แผนกผู้ป่วยวิกฤตทันที โดยมีทีมแพทย์ผู้ทำการรักษาแบ่งเป็น 2 ทีม นำโดยนายแพทย์เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล ศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง ได้ให้การดูแลรักษาผู้ป่วย เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บที่ศีรษะและสมอง หลังจากการติดตามอาการ คณะแพทย์ตัดสินใจดูแลรักษาได้โดยไม่ต้องใช้วิธีการผ่าตัด

ส่วนการบาดเจ็บกระดูกขาขวาหัก นายแพทย์ศุภชัย พันธ์พิเชฐ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ ได้ทำการผ่าตัด ในเวลา 21.25 น. โดยใช้เวลาผ่าตัด 1 ชั่วโมง 20 นาที หลังผ่าตัดผู้ป่วยยังคงได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ที่แผนกผู้ป่วยวิกฤต ต่อมาในวันที่ 10 พ.ค. เวลา 16.00 น. ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ไม่มีภาวะแทรกซ้อน ทางทีมแพทย์ จึงได้ย้ายผู้ป่วยไปยังหอผู้ป่วยสามัญ และจนถึงขณะนี้ ผลการรักษาเป็นไปด้วยดี ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นเป็นลำดับ

ด้านบริษัทประกันของนายเจค็อบ นั้น ทางโรงพยาบาลได้ประสานงานไปยังบริษัทประกัน ซึ่งได้ทราบว่าบริษัทประกันของผู้ป่วยปฏิเสธความคุ้มครอง จึงได้ทำการติดต่อแจ้งให้ทางญาติผู้ป่วยทราบ

โรงพยาบาลสิริโรจน์ ขอยืนยันว่าโรงพยาบาลไม่ได้ปฏิเสธการดูแลรักษาเจค็อบ เพราะได้ทำการรักษาและช่วยเหลือทันที จนปัจจุบันนายเจค็อบ ปลอดภัย และมีอาการที่ดีขึ้นเป็นลำดับ โรงพยาบาลสิริโรจน์คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นหลักก่อนเสมอ มิใช่ประเด็นเรื่องการเงินเป็นสำคัญ

เป้ารับบริจาคขณะนี้ตั้งอยู่ที่ 25,000 ปอนด์ หรือประมาณ 1.11ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่ารักษาเจค็อบที่กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลสิริโรจน์ (บริจาค คลิก ที่นี่)