รวบ “สว.ชาติ” อ้างตัวเป็น “เจ้าหน้าที่รัฐ” เรียกรับเงินผู้ประกอบการกว่า 5 แสน

ภูเก็ต – วันนี้ (9ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบังคับการสืบทวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวผู้ต้องหาชาว จ.นครศรีธรรมราช แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เบื้องต้นโดยมีผู้เสียหาย จำนวนกว่า 20 ราย รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณกว่า 500,000 บาท

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 9 ตุลาคม 2561, เวลา 19:49 น.

พ.ต.อ.อกนิษฐ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ฯ ร่วมกันนำตัวสุชาติ สมบัติชัย อายุ 34 ปี ภูมิลำเนา จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหากระทำความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์โดยโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 456/2561 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2561 เนื่องจากได้ก่อเหตุแอบอ้างชื่อเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐมีทั้งตำรวจ และฝ่ายปกครอง เรียกรับเงินจากผู้ประกอบการในพื้นที่ จ.ภูเก็ต, จ.พังงา และ เกาะสะมุย จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนเหตุระหว่างปี 2557- ปัจจุบัน โดยมีผู้เสียหาย จำนวนกว่า 20 ราย รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณ 500,000 บาท แต่เบื้องต้นได้มีผู้เสียหายการมาแจ้งความดำเนินคดีไว้ 3 ราย

พ.ต.อ.อกนิษฐ กล่าวว่า ด้วยในห้วงที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ได้รับแจ้งว่า มีบุคคลซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง โดยใช้นามว่า “สว.ชาติ” ได้โทรศัพท์ไปเรียกเก็บเงินจากสถานประกอบการในพื้นที่ จ.ภูเก็ต, จ.พังงา และ อ.เกาะสะมุย จ.ภูเก็ต โดยเรียกรายละ 1,000-10,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดสถานประกอบการ โดยอ้างว่า จะนำมาใช้จ่ายในการต้อนรับผู้บังคับบัญชาที่มาจากส่วนกลาง เพื่อมาประชุมหรือติดตามคดีต่าง ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดเหตุเรือฟินิกซ์ล่มเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และหากสถานประกอบการรายใดไม่จ่ายก็จะมีการข่มขู่ว่าจะนำกำลังเข้าไปจับกุม

“หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ก็ได้ติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้มาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งล่าสุดไปก่อเหตุในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรีและถูกจับกุมได้ แต่เนื่องจากตกลงกับผู้เสียหายได้ จึงมีการถอนแจ้งความฯ ซึ่งหลังจากชุดจับกุมของกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตทราบก็ได้ติดต่อประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพัทยา และทำการจับกุมตัวตามหมายศาลจังหวัดภูเก็ต เพื่อมารับโทษที่ก่อขึ้นในพื้นที่ จ.ภูเก็ต” พ.ต.อ.อกนิษฐ กล่าว

ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว โดยจะให้ผู้เสียหายโอนเงินมายังบัญชีธนาคารของผู้เป็นยาย ภรรยาและบุคคลใกล้ชิด ก่อนที่ไปกดเงินมาใช้จ่าย เบื้องต้นรับสารภาพว่าทำเพียงคน แต่ทางเจ้าหน้าที่ คงจะต้องมีการขยายผลเพิ่มเติมว่าเจ้าของบัญชีต่าง ๆ นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่อย่างไร พร้อมกันนี้ก็ขอให้ทางผู้เสียหายซึ่งมีอีกร่วม 20 ราย หากคิดว่าถูกนายสุชาติ หลอกลวงก็ขอให้มาแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝากไปยังสถานประกอบการว่า หากมีบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ขอให้ตรวจสอบก่อน เพื่อจะได้ไม่โดนหลอกและเสียเงินไปเปล่า ๆ

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่