พ.ต.ท. ธรรมสรรค์ บุญทรง รอง ผกก.สส.สภ.วิชิต เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต ถึงกรณีสรุปคดีข่มขืนกระทำชำเราฯ ว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 63 ในเวลาประมาณ 10.00 น. โดยสถานที่เกิดเหตุคือสวนผักตรงข้ามโรงแรมไลลา ถ.เมืองทอง – เขาขาด ม.6 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีผู้เสียหายเป็นหญิงอายุ 41 ปี (ขอสงวนนาม)
ภายหลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้เดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สุรชาติ ทองใย พนักงานสอบสวน สภ.วิชิต ในเวลา 22.40 น. พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันเดียวกันว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ในขณะที่ตนเองกำลังดูแลสวนผัก บริเวณตรงข้ามโรงแรมไลลา ม.6 ต.วิชิต ได้มีชายอายุประมาณ 30-35 ปี สวมเสื้อยืดแขนสั้น สีฟ้า กางเกงขายาวผ้ามันสีดำ ใช้เสื้อสีขาวปิดคลุมหัวและสวมหมวกสีน้ำตาล แขนข้างขวามีรอยสัก เข้ามาประชิดตัวและใช้อาวุธคล้ายอาวุธปืน ข่มขู่ สอบถามว่ามีเงิน 200 บาทหรือไม่ ผู้เสียหายตอบว่าไม่มี แต่เก็บเงินไว้ที่รถจะไปเอาให้
จากนั้นจึงได้เบี่ยงตัวเดินออกมา ปรากฏว่าชายดังกล่าวเดินมาจับที่ตัวและกระชาก แล้วลากเข้าไปในป่าและได้ชกบริเวณหน้าท้องของนางผู้แจ้งจนล้มลง จากนั้นชายคนก่อเหตุได้ลงมือข่มขืนประมาณ 15 นาทีจนสำเร็จความใคร่ แล้วจึงได้ลุกขึ้นพร้อมข่มขู่ผู้แจ้งไม่ให้เดินตามมาก่อนหลบหนีไป พนักงานสอบสวนรับแจ้งแล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และแจ้งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ
พ.ต.ท. ธรรมสรรค์ กล่าวอีกว่า จากตรวจสอบจุดเกิดเหตุชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณร้านขายของชำ ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ 200 เมตร พบชายต้องสงสัยลักษณะการแต่งกายคล้ายคนร้าย ขับขี่รถจักรยานยนต์ใกล้เคียงตามที่ผู้เสียหายแจ้ง สอบถามพยานแวดล้อมให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องสงสัยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาที่เกิดเหตุอยู่บ่อยครั้ง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ติดตามคนร้ายจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายอมร จันทากูด อายุ 34 ปี หลบหนีอยู่ในพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงทำรายงานการสืบสวนให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับนายอมร
กระทั่งในวันนี้ (30 พ.ย.) เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ได้นำหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 327/2563 ลงวันที่ 30 พ.ย. 2563 ไปจับกุมนายอมร ที่หลบหนีไปทำงานรับจ้างทำสวนที่ ต.ฉลอง ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ได้กระทำโดยให้ผู้ถูกกระทำเข้าใจว่าผู้กระทำมีอาวุธหรือวัตถุระเบิด” นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
