ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.วิศาล พันธุ์มณี ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.ท.ณรงค์ ลักษณะวิมล รอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รอง ผกก.สส.ฯ ชุดปฏิบัติการนำโดย พ.ต.ท. ยุทธนา ทองปาน สว.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.ต.พิชิต ทองโต ส.สส.สภ.ท่าฉัตรไชย/หน.ชปส.ภ.จว.ภูเก็ต
ได้ร่วมกันจับกุมตัวนาย สุทิน หรือทอม แจ้งโพธิ์ อายุ 34 ปี ที่อยู่ ต.ศาลาขาว อ.เมืองสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมาในเวลา 18.00 น. พร้อมของกลาง ยาไอซ์ชั่งน้ำหนักรวมถุง 134.03 กรัม และยาบ้า 24 เม็ด โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์, ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ก่อนทำการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ประมาณต้นเดือน ก.ค. 62 ชุดจับกุมได้สืบทราบว่ามีนายทอม (ไม่ทราบชื่อนามสกุล) อายุประมาณ 30-35 ปี มีพฤติกรรมในการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดยาไอซ์และยาบ้า ให้กับกลุ่มผู้เสพและผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่บ้านไสยวน ต.ราไวย์ และพื้นที่ใกล้เคียง จึงได้สืบสวนหาข่าวและให้สายลับเข้าประกบล่อซื้อเพื่อจับกุมตัวเรื่อยมา
กระทั่งวันที่ 13 ส.ค. เวลา 16.00 น. ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ(ขอปิดนาม) ว่าผู้ต้องหารายนี้มียาไอซ์และยาบ้าอยู่ในครอบครองจำนวนมาก และกำลังรอจำหน่ายให้กับลูกค้า ในห้องเช่าบนถนนใสยวน จากนั้นชุดจับกุมจึงได้ร่วมกับสายลับเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงบริเวณหน้าห้องเช่าที่เกิดเหตุ พบว่าประตูห้องเช่าปิดอยู่ ชุดจับกุมจึงได้จอดรถซุ่มดู ระหว่างซุ่มสังเกตการณ์นายสุทินได้ขับรถจยย.ยามาฮ่า มีโอ สีม่วง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนแผ่นป้ายทะเบียนเข้ามาจอดบริเวณหน้าห้องเช่าที่เกิดเหตุ สายลับยืนยันว่าเป็นนายสุทินจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงจากรถแสดงตัวพร้อมบัตรปปส. เพื่อทำการตรวจค้นจนพบของกลางบางส่วน นายสุทินยอมรับว่ายาเสพติดเป็นของตนจริง และยังมียาเสพติดซ่อนอยู่ภายในห้องหมายเลข 15 ของห้องเช่าที่เกิดเหตุอีกจำนวนหนึ่ง และสมัครใจนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นจนพบของกลางทั้งหมด ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาที่ห้องปฏิบัติการ ชปส.ภ.จว.ภูเก็ต เพื่อจัดทำบันทึกและจับกุม และสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดเพิ่มเติม พร้อมทั้งดำเนินการตรวจยึดทรัพย์สินของนายสุทิน พ.ร.บ.มาตรการฯ ทำการตรวจยึดทรัพย์สินซึ่งอยู่ในความครอบครองของนายสุทิน ซึ่งน่าเชื่อถือว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดไว้ตรวจสอบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น BD-115C สีฟ้า ป้ายทะเบียนภูเก็ต, ยามาฮ่ามีโอสีแดง ไม่ติดแผ่นป้าย 1 คัน ราคาประมาณ 1 หมื่นบาท ที่พบจอดอยู่บริเวณหน้าห้องเช่าที่เกิดเหตุ และ จยย.ฮอนด้า รุ่น PCX 150 สีขาว-ส้ม ติดป้ายทะเบียนภูเก็ต ซึ่งตรวจสอบพบ่วาผู้ครอบครองและผู้ถือกรรมสิทธิ์คือนายสุทิน โดยผู้ถูกจับยอมรับว่ารถทั้ง 3 คันเป็นของตนจริง
จากการสืบสวนขยายผลเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายธวัชชัย หรือบำ พูลดำ อายุ 26 ปี ชาว ต.เขาพังไกร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 14 ส.ค. เวลาประมาณ 21.00 น. พร้อมของกลางยาบ้า 200 เม็ด ได้ที่บริเวณข้างคอกทิ้งถุงขยะหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง บนถนนกะตะน้อย โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
สืบเนื่องจากนายสุทิน ผู้ต้องหายาเสพติดที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้ก่อนหน้านั้น ให้ข้อมูลว่าตนสั่งซื้อยาเสพติดของกลางมาจาก น.ส.เบญจวรรณ หรือหนิง พูลดำ (ซึ่งทราบชื่อและนามสกุลจริงในภายหลัง) โดยตนได้สั่งซื้อมาแล้วหลายครั้ง ในแต่ละครั้งเมื่อน.ส.เบญจวรรณ ตอบตกลงก็จะให้น้องชายแท้ ๆ คือนายธวัชชัย ผู้ซึ่งทำงานเป็นพนักงานที่ร้านอาหารใกล้สถานที่จับกุม เป็นผู้นำยาเสพติดยาไอซ์ยาบ้ามาวางไว้ที่บริเวณข้างคอกทิ้งถุงขยะหน้าร้านอาหาร
ชุดจับกุมจึงได้ให้นายทอมโทรติดต่อน.ส.หนิง (เปิดลำโพงโทรศัพท์) เพื่อสั่งซื้อยาบ้า 1 ถุง 200 เม็ด ตกลงกันในราคา 4,000 บาท และจะชำระให้ในภายหลัง น.ส.หนิงตอบตกลงและบอกให้ไปรับยาได้ที่เดิม จากนั้นประมาณ 21.00 น. และเดินทางไปซุ่มดูเหตุการณ์ตามเวลาที่นัดหมายบริเวณหน้าร้านอาหาร และพบว่านายบำเดินถือสิ่งของมาอย่างมาที่บริเวณข้างคอกทิ้งขยะ ซึ่งอยู่หน้าร้านอาหารที่เกิดเหตุ ซึ่งนายทอมยืนยันว่าเป็นนายบำ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้นจนพบของกลางดังกล่าว
สอบถามนายธวัชชัยหรือบำ ยอมรับว่ายาบ้า 200 เม็ดดังกล่าวเป็นของตนจริง ซึ่งตนได้ไปเก็บยาบ้าจำนวน 1 ถุงที่ใต้ต้นไม้หาดกะรน ตามพี่สาวโทรบอกให้ไปเก็บเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันเดียวกัน เพื่อนำมาวางไว้ยังสถานนัดหมายจนถูกจับได้ดังกล่าว