รวบหนุ่มอุซเบกิสถานต้องสงสัยแลกเงินปลอมกว่า 900 ดอลล่าร์

ภูเก็ต - เจ้าของร้านเอ็กเซนจ์ แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ สังเกตุเห็นหนุ่มอุซเบกิสถานนำเงินดอลลาร์ปลอมแลกที่ร้าน ให้ลูกสาวถ่วงเวลา แจ้งจนท.รวบได้ทันควัน

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 4 กรกฎาคม 2560, เวลา 11:39 น.

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. เวลา 13.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ได้รับแจ้งจาก เจ้าของเอ็กเซนจ์ แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม เเอนด์ พี (2012) ตั้งอยู่บน ถ.ปฏัก ต.ราไวย์ (ห่างจากสภ.ฉลอง เพียง 400 เมตร) ว่าได้มีชาวต่างชาตินำเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ มาเเลก ตรวจสอบพบว่าคล้ายเป็นธนบัตรปลอม จึงขอให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ โดยทางร้านแจ้งว่ากำลังถ่วงเวลาให้เจ้าหน้าที่มาถึง

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง นำโดย พ.ต.ท.โยคิน จันทร์คง สวป.สภ.ฉลอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.ฉลอง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบชาวต่างชาติตามที่รับแจ้ง ทราบชื่อภายหลังคือ นายโบโบเยบ โกลิจอนโอบิโดวีฟ อายุ 27 ปี ชาว อุซเบกิสถาน กำลังเดินออกจากร้าน จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบก่อนเชิญตัวมาสอบสวนสวนที่สภ.ฉลอง

เบื้องต้นตรวจสอบภายในตัวของนายโบโบเยบ พบธนบัตรฉบับละ 100 ดอลล่าร์จำนวน 17 ใบ (หรือประมาณ 57,800 บาท) พร้อมใบแจ้งหักบัญชี/ใบเสร็จธนาคารกรุงเทพสาขาเชิงทะเล ต.เชิงทะเล 2 ฉบับ ฉบับแรก ระบุตัวเลขว่ามีการแลกเปลี่ยนเงินสด 1,500 ดอลล่าร์ แลกเป็นเงินไทย 51,315 บาท และฉบับที่ 2 ระบุตัวเลขว่ามีการแลกเปลี่ยนเงินสด 1,620 ริงกิต (มาเลเซีย) แลกเป็นเงินไทย 12,247 บาท ลงวันที่วันที่ 3 กรกฎาคม

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเเลกเงินตราต่างประเทศของธนาคารกรุงเทพ สาขาฉลอง มาช่วยตรวจสอบธนบัตรทั้งหมด ผลปรากฏว่า มีเงินดอลลาร์ฉบับละ 100 ดอลล่าร์มี จำนวน 9 ฉบับ เป็นแบงค์ปลอม ส่วนที่เหลือ อีก จำนวน 8 ฉบับ มูลค่า 800 ดอลล่าร์นั้นเป็นของเเท้

Berda Claude International School of Phuket (BCIS)

สอบถาม นายโบโบเยบ ได้กล่าวผ่านล่ามว่าตนเองได้เดินทางมาจากประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 2 ก.ค.2560 ในเวลา 08.30 น. เป็นการมาท่องเที่ยวพักผ่อน15 วัน และหลังลงจากเครื่องบินได้เดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่ ต.เชิงทะเล เเละในวันนี้ ได้ไปเเลกเงินที่ธนาคารกรุงเทพฯ โดยได้นำเงินดอลลาร์จำนวน 1,500 ดอลลาร์ แลกเป็นเงินไทย 51,315 บาท และเงินสด 1,620 ริงกิต (มาเลเซีย) แลกเป็นเงินไทย 12,247 บาท แต่ขณะไปแลกเงินนั้น เจ้าหน้าที่ธนาคารได้แจ้งว่า เงินบาทของธนาคารได้หมด ธนาคารจึงได้ให้เงินดอลลาร์กลับมาแทน อีกจำนวน 9 ฉบับ ตนจึงนำมาแลกที่ร้านแลกเปลี่ยนเงินตราแห่งนี้

ด้านนางกรรณิการ์ พัฒน์คงอายุ 59 ปี เจ้าของร้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ กล่าวว่า ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ นายโบโบเยบ ได้นำเงินฉบับละ 100 ดอลล่าร์ จำนวน 9 ใบมาแลกเปลี่ยน ตนจึงรับเงินมาตรวจนับและพบว่าเงินที่รับมามีความผิดปกติ เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดก็พบว่าเป็นเเบงค์ปลอม จึงได้เรียกบุตรสาว (น.ส.ธิดาธง พัฒน์คง อายุ 32 ปี) มาคุยเพื่อถ่วงเวลา ก่อนที่ตนจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างพี่ถ่วงเวลาอยู่นั้น นายโบโบเยบ เริ่มแสดงท่าทีสงสัย จึงพยายามของเงินเหรียญคืน ตนจึงเห็นว่าเจ้าหน้าที่ใกล้จะถึงแล้วจึงได้ให้เงินคืน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางมาถึงและได้เชิญตัวไปสอบสวนที่ สภ.ฉลอง ในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำพูดของ นายโบโบเยบ ล่าสุดได้ประสานไปยังธนาคารกรุงเทพฯสาขาเชิงทะเล เพื่อหาข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามฯ ร่วมสืบสวนขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ เกี่ยวข้องอีกหรือไม่

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่