รวบอดีตหนุ่มแบงค์ภูเก็ตฉกเงินลูกค้า 14 ครั้งกว่า 1 แสนบาทไปเล่นพนันออนไลน์

ภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ร่วมกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค จับกุมอดีตพนักงานธนาคารในจังหวัดภูเก็ต ยักยอกเงินลูกค้ากว่า 1 แสนบาทไปเล่นพนันนออนไลน์ เผยเลือกเหยื่อที่เป็นคนแก่ เตรียมขยายผลหาผู้เสียหายเพิ่มเติมคาดมีมากกว่านี้

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 25 สิงหาคม 2563, เวลา 19:48 น.

วันนี้ (25 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้อำนวยการของ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน รอง ผบก.สพ./ หน.ชป.4 ศปอส.ตร. ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.ฐาปกรณ์ หนุมาศ รอง ผกก.สส.ฯ ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายปรินทร์ หรือบอล ปะจันทบุตร อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตลงวันที่ 24 ส.ค.63

ซึ่งกระทำความผิดฐาน 1.ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น 2.เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน 3.เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน โดยมิชอบ โดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด พร้อมด้วยของกลาง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง เราท์เตอร์อินเตอร์เน็ตไวไฟ 1 เครื่อง อุปกรณ์ฮาร์ดดิส 1 อัน จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 8/5 ม.10 ซ.บ้านทรงไทย ถ.เจ้าฟ้า ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต

พ.ต.ท.ฐาปกรณ์ เปิดเผยว่า นายปรินทร์ เป็นอดีตพนักงานธนาคารแห่งหนึ่งในจ.ภูเก็ตเพิ่งลาออกมาไม่ถึงเดือน มีพฤติการณ์ในการก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้นำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เบื้องต้นพบการกระทำความผิด 1 ราย ผู้เสียหายมีอาชีพเลี้ยงหมูอายุประมาณ 60 ปี ได้นำข้อมูลของผู้เสียหายไปทำการสมัครเปิดใช้ สมัครการธนาคารอิเล็กทรอนิกส์หรือเน็ตแบงค์ (Netbank) จากนั้นได้โอนเงินออกจากบัญชีผู้เสียหายไปเล่นพนันออนไลน์จนหมดกว่า 1แสนบาท เมื่อสืบทราบว่าคนร้ายเป็นใครจึงเข้าทำการจับกุม นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“การกระทำของคนร้ายรายนี้ มีพฤติการณ์ในการก่อเหตุโดยจะอาศัยช่องโหว่ของผู้เสียหายที่ได้มีการเปิดบัญชีธนาคารไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ทำการสมัครเน็ตแบงค์ของธนาคาร ซึ่งคนร้ายรายนี้จะลักลอบนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหาย เช่น บัญชีธนาคาร, บัตรประจำตัวประชาชน, หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ไปทำการสมัครระบบเน็ตแบงค์ ทำให้คนร้ายสามารถโอนเงินออกจากบัญชีผู้เสียหายได้ด้วยตนเอง โดยที่ผู้เสียหายไม่ทันรู้ตัวว่าเงินในบัญชีของตนได้ถูกลักลอบโอนออกไป ซึ่งคนร้ายรายนี้ได้นำเงินจากบัญชีผู้เสียหายไปซื้อสินค้าจากผู้ให้บริการประเภทดิจิทัลคอนเทนต์ หรือสื่อสารสนเทศที่มีรูปแบบเป็นดิจิทัล เพื่ออำพรางให้ยากต่อการตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยได้ก่อเหตุกระทำซ้ำกันมากกว่า 14 ครั้ง

การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ศปอส.ตร., กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมกับหน่วยงานตรวจสอบการฉ้อโกง ของธนาคารดำเนินการตรวจสอบพบความผิดปกติของบัญชีผู้เสียหาย และได้ทำการสืบสวนขยายผล จนสามารถจับกุมตัวคนร้ายพร้อมของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด ซึ่งทางหน่วยงานตำรวจพร้อมร่วมมือกับธนาคารผู้ให้บริการต่าง ๆ ในการดูแล พิทักษ์ทรัพย์สินของประชาชนผู้ใช้บริการทุกท่าน

จึงขอฝากเรียนพี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง, ข้อมูลทางการเงินให้กับบุคคลอื่น และมีการตรวจสอบดูแลรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอยู่สม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เป็นช่องโหว่ของคนร้ายนำไปใช้ในการกระทำความผิด

และขอประชาสัมพันธ์แก่ผู้เสียหายรายอื่น ๆ ว่าหากท่านถูกประทุษร้ายต่อทรัพย์สินหรือข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ท่านสามารถเข้าติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 1 สายด่วน 1599 หรือ 1155

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่