รวบอดีตแม่บ้านสวมรอยเป็นกรรมการบริษัททิพย์ออกใบกำกับภาษีปลอม รัฐเสียหาย 131 ล้าน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นางสาวเยาวลักษณ์ ฯ ในความผิดฐาน “ร่วมกันออกใบกำกับ ภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามมาตรา 86/13 แห่งประมวลรัษฎากร อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร” ก่อนคดีจะหมดอายุความในอีก 2 เดือนเศษ โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้องพัก ถ.ลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

ข่าวภูเก็ตประชาสัมพันธ์หน่วยงานรัฐ

วันพฤหัสบดี ที่ 20 มีนาคม 2568, เวลา 11:47 น.

ภาพ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)

ภาพ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)

สืบเนื่องจาก กรมสรรพากรได้มาร้องทุกข์ที่ กก.2 บก.ปอศ. ให้พิจารณาดำเนินคดีอาญาความผิดกับ บริษัทแห่งหนึ่ง และ น.ส.เยาวลักษณ์ ฯ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทฯ ในข้อหา “ร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกฯ” กล่าวคือ ในช่วงเดือนต.ค. 66 บ. ดังกล่าว มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง แต่เจ้าพนักงานกรมสรรพากรตรวจสอบพบว่า บ. ดังกล่าว ไม่มีการประกอบกิจการ ณ สถานประกอบการดังกล่าวจริง โดยสถานที่ตั้งมีลักษณะเป็นเพียงบ้านเช่า ไม่พบการประกอบกิจการ สอบถามผู้อาศัยข้างเคียงให้การว่า บริษัทดังกล่าวไม่ได้มีการประกอบกิจการแต่อย่างใด อีกทั้งไม่สามารถติดต่อได้ กรมสรรพากรจึงเชื่อได้ว่า บริษัทดังกล่าวมีการออกใบกำกับภาษีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เนื่องจากเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมา ไม่ได้มีเจตนาที่จะประกอบกิจการจริง ประกอบกับบริษัทดังกล่าวไม่ส่งมอบเอกสารให้เจ้าพนักงานกรมสรรพากรเพื่อตรวจสอบ แต่ได้ออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกช่วงเดือนภาษี ส.ค. 66 ถึงเดือนภาษี ม.ค. 59 ให้กับผู้ประกอบการรายอื่น ประกอบกับกรมสรรพากรได้รับแจ้งจากสำนักงานสรรพากรพื้นที่ต่าง ๆ พบว่ามีใบกำกับภาษีขายที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ออกโดยบริษัทนี้ไปยังผู้ประกอบเพื่อใช้ยื่นขอเครดิตภาษี (ขอคืน) ต่อกรมสรรพากร รวมใบกำกับภาษีจำนวน 188 ฉบับ

ซึ่งใบกำกับภาษีดังกล่าวเป็นเท็จทั้งสิ้น และไม่มีการซื้อขายสินค้ากันจริงแต่อย่างใด ซึ่งได้ประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม รวมเป็นเงินจำนวนกว่า 131 ล้านบาท จากข้อมูลดังกล่าวจึงเชื่อได้ว่า การออกใบกำกับภาษีดังกล่าวเป็นการออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 86/13 แห่งประมวลรัษฎากร อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร

พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. ได้อออกหมายเรียกเพื่อติดต่อตัวกรรมการมาทราบข้อกล่าวหา แต่ก็ไม่มีผู้ใดมาพบพนักงานสอบสวนตามที่ออกหมายเรียกไป จึงเชื่อได้ว่ามีพฤติการณ์หลบหนี พนักงานสอบสวนจึงได้ขออนุญาตศาลเพื่อออกหมายจับ นำตัวกรรมการเป็นผู้รับผิดชอบมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หลังจากที่ศาลได้อนุมัติหมายจับแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนมาโดยตลอด ประกอบกับหมายจับใกล้จะหมดอายุความในอีก 2 เดือนเศษ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นกรณีที่มีมูลค่าความเสียหายสูง จึงได้เร่งดำเนินการสืบสวนจนทราบว่า นางสาวเยาวลักษณ์ฯ ผู้ต้องหาอยู่ในพื้นที่ ถ.ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร จึงติดตามกระทั่งพบตัวผู้ต้องหา ทำการจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

HeadStart International School Phuket

ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.นฤพนธ์ กรุณา ผกก.2 บก.ปอศ. สั่งการให้ พ.ต.ต.นพคุณ ทัศนมาลัย สว.กก.2 บก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปอศ. ดำเนินการ




 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่