พ.ต.ท.อนุรักษ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นพบผู้เสียหายคือนางสาวมาเรีย โคเดวา สัญชาติรัสเซีย อยู่ในอาการตื่นตกใจ จึงเชิญตัวมาสอบปากคำที่สภ.ฉลอง ทราบว่า ขณะที่นั่งอยู่ริมถนนเพียงลำพังบริเวณใกล้หนองน้ำในหานได้มีคนร้ายขับขี่รถจยย.มาสอบถาม ทำทีอาสาจะไปส่ง จึงขึ้นรถจยย.ไป แต่คนร้ายได้ขับพาเข้าไปที่สนามฟุตบอลก่อนข่มขู่และชิงสร้อยคอที่สวมอยู่ ตนเองร้องโวยวาย ก่อนตัดสินใจวิ่งลงมาขอความช่วยเหลือชาวบ้าน ทำให้คนร้ายตกใจขับจักรยานยนต์หนีไป พร้อมกับสร้อยคอและจี้รูปไม้กางเขน จำนวน 1 เส้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ประสานไปยังนายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ เพื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดหาเพื่อรูปพรรณคนร้ายและรถจยย.ที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนจนทราบลักษณะรถที่ใช้ก่อเหตุ และลงพื้นที่ตรวจสอบเพิ่มเติมจนพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าสกูปปี้ไอสีขาวดำ หมายเลขทะเบียน 1 กข 8937 ภูเก็ต จอดทิ้งไว้ที่ สนามฟุตบอล แหลมพรหมเทพ จึงนำข้อมูลไปตรวจสอบพบว่า ทะเบียนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นของมารดาผู้ก่อเหตุ จึงทำการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมจนทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายวัชระ แจ่มสุวรรณ อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้นำภาพถ่ายนายวัชระให้นางสาวมาเรียดู เมื่อผู้เสียหายดูภาพถ่ายและได้ยืนยันว่าใช่คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ สร้อยคอและจี้ไปจริง จึงเร่งติดตามตัว
จากนั้น จนท.ชุดสืบสวนจึงเร่งติดตามตัวจนทราบว่า นายวัชระได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 34/1 หมู่ 2 ตำบลกะทู้ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวพบว่านายวัชระยืนอยู่ในบริเวณหน้าบ้านเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและสอบถามว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์สร้อยคอและจี้ของนางสาวมาเรียจริงหรือไม่ นายวัชระตอบกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง จึงนำตัวนายวัชระมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง
ต่อมาในเวลาประมาณ 17.00 น. วานนี้ (16 เม.ย.61) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฉลอง นำโดย พ.ต.อ. ภัคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สภ.ฉลอง ร่วมกันพาตัวนายวัชระ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยไปที่จุดเกิดเหตุที่คนร้ายพบผู้เสียหาย บริเวณใกล้หนองน้ำในหานและจุดที่ 2 ภายในสนามฟุตบอลแหลมพรหมเทพ และจุดที่ 3 ที่บ้านเลขที่ 89/6 ม.6 ซอยยะนุ้ย สถานที่ที่นำสร้อยพร้อมจี้ไปเก็บไว้
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา “ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ” ซึ่งนายวัชระรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา