พ.ต.อ.บัณฑิต เปิดเผย การจับกุม นายสมชาย บัวแก้ว ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ถนนพระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยพื้นเพเป็นคนจังหวัดพังงา แต่ได้ย้ายมาอยู่กับบิดาที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไปในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งหลังจากพ้นโทษออกมา เมื่อเดือนกันยายน 2562 ผู้ต้องหารายนี้ก็ไม่ได้มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง พักอาศัยอยู่กับเพื่อนและไม่มีงานทำ
กระทั่งก่อเหตุ 4 ครั้งล่าสุดในเดือนมกราคม 2563 ดังนี้
ครั้งที่ 1 วันที่ 10 ม.ค. ก่อเหตุลักทรัพย์บริเวณบ้านเลขที่ 46/385 หมู่ที่ 6 ต.กะทู้ ได้ทรัพย์สินไปประมาณ 3,000 บาท
ครั้งที่ 2 วันที่ 14 ม.ค. ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ป้ายทะเบียนกระบี่ ซึ่งเป็นของ นายสนบาราดูน ราย (แฟนพี่สาว) ซึ่งจอดอยู่หน้าบ้านพักบนถนนนา ต.ป่าตอง
ครั้งที่ 3 วันที่ 27 ม.ค. ก่อเหตุชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ภายในโรงแรมภูเก็ตโมเต็ล ต.ตลาดเหนือ ต่อเนื่องข้างโรงเรียนเฮดสตาร์ท ซอยนาเสือ ต.วิชิต ได้ทรัพย์สินเป็นรถจักรยานยนต์ 1 คัน
ครั้งที่ 4 วันที่ 28 ม.ค. ก่อเหตุชิงทรัพย์บริเวณแฟลตเคหะเอื้ออาทร ซอยกิ่งแก้ว ต.รัษฎา ได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เงินสด 1,500 บาท
พ.ต.อ.บัณฑิต กล่าวว่า จากการสอบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนภ.จว. ภูเก็ต จึงนำมาสู่การจับตัวนายสมชาย หรือ แม็ค นาจา ได้ในวันนี้เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในซอยรุ่งรวี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์ 2 ครั้งและชิงทรัพย์ 2 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.63 เป็นต้นมาจริง ผู้ต้องหาคุณพูดออกมาจากเรือนจำภูเก็ต เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 62 ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งอาศัยพักอยู่กับเพื่อนและไม่ได้ประกอบอาชีพ ภูมิลำเนาคนจังหวัดพังงา และได้มาอาศัยกับบิดา ซึ่งประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปในภูเก็ตเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการแถลงข่าวในคดีนี้ในเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันนี้ต่อไป