รอง ผบช. ท่องเที่ยวนำกวาดล้างสินค้าแพงเกินจริงเอาเปรียบนทท. ยึดของกลางมูลค่ากว่า 10 ล้าน

ภูเก็ต - .วานนี้ (20 ก.ย. 60) เมื่อเวลา 16.30 น ที่หน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยว อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง.ผบช.ทท.พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.อ.ศานติ ศกุนตนาค ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 25-คณะทำงานชุดเฉพาะกิจกองทัพภาคที่ 4

เอกภพ ทองทับ

วันพฤหัสบดี ที่ 21 กันยายน 2560, เวลา 09:42 น.

สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต สรรพากร ศุลกากร สาธารณสุขจังหวัด เป็นต้นแถลงผลการจับกุมสิ่งผิดกฎหมายเกี่ยวกับกลุ่มบริษัทนำเที่ยวหรือกลุ่มบริษัทที่ประกอบการในลักษณะนอมินี รวมถึงสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งมีพฤติกรรมในการเอารัดเอาเปรียบ หลอกลวงนักท่องเที่ยวในส่วนของสินค้าและบริการ ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศเสียหาย

ซึ่งในส่วน จ.ภูเก็ตตรวจสอบพบร้านค้า-ผู้ประกอบการหลายรายมีพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบ รวมถึงจำหน่ายสินค้าที่มีราคาแพงเกินจริงให้กับนักท่องเที่ยว

จึงมีการนำกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุมร้านจำหน่ายรังนก 2 แห่งใน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ร้านเพชร ร้านยางพาราและสวนงูใน อ.เมือง จ.ภูเก็ตเช่นกัน โดยมีการยึดรังนกแห้งเกรด AA รังนกผ่านการต้ม รังนกทรงเครื่อง เห็ดหูหนูขาวจำนวนหนึ่ง เข็มขัดหนัง 150 เส้น กระเป๋าสตางค์ 134 ใบ พวงกุญแจ 80 ชิ้น แหวนพลอยสีเหลือง 120 วง จี้พลอย 160 ชิ้น ที่นอนยางพารา 50 หลัง หมอนยางพารา 100 ใบ ผลิตภัณฑ์ประเภทบำรุงร่างกายไม่มีฉลากภาษาไทยอย่างเม็ดสีชมพูขวดละ 250 เม็ด จำนวน 124 ขวด เม็ดสีทองขวดละ 200 เม็ด จำนวน 124 ขวด แบบแคปซูลอีกกว่า 200 ขวด เป็นต้น รวมมูลค่าสิ่งของที่มีการตรวจยึดได้กว่า 10 ล้านบาท โดยจะมีการสอบสวนร้านค้าและบริษัทดังกล่าว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า “การท่องเที่ยวนโยบายรัฐบาลคือการสร้างความเชื่อมั่น ความมั่นใจ พล.เอกประยุทธ จันโอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการมายังกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้บูรณาการกำลังในการปราบปรามกวดขัน จับกุมบริษัททัวร์ที่ละเมิดกฎหมาย กระทำความผิดตามกฎหมายทุกชนิด”

“ไม่ว่าจะเป็นรถ ไกด์ หรือ ผลิตภัณฑ์อาหารและยา หรือการนำสินค้ามาจำหน่ายเกินจากราคาที่กำหนด หรือเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ด้อยคุณภาพ และการหลีกเลี่ยงภาษีอากร การไม่ชำระภาษีให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.สรรพากร ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการกระทำความผิดในวงจรการท่องเที่ยวทั้งหมด ซึ่งรวมและอยู่ภายใต้กฎหมายของ ทั้งพ.ร.บ.ท่องเที่ยว และพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเป้าหมายตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจะต้องไม่มีอีกแล้วการกระทำความผิดในลักษณะเช่นนี้ การเอาสินค้ามาหลอกลวงขายนทท. เช่น ที่พบในวันนี้ มีการเอาน้ำมันตับปลา ซึ่งปกติซื้อขายกันขวดละ 500 บาทมาบอกนทท.ว่าเป็นน้ำมันที่มีส่วนผสมของงูและขายกันในราคา 5,000 บาท ซึ่งบริษัทที่ทำแบบนี้จะต้องอยู่ในประเทศไทยไม่ได้ เพราะไม่อยู่ในกรอบกฎหมายไทย”

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่