วันนี้ (16 ม.ค. 63) เวลา 11.00 น. นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ามีผู้บุกรุกเป็นผู้ประกอบการที่เข้าไปสร้างเพิงพัก นำโต๊ะเก้าอี้และร่มมาตั้งจุดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม จำนวน 9 ร้าน มีผู้กระทำผิดจำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันยึดของกลาง ทั้งหมด พร้อมนำตัวผู้กระทำผิด และของกลาง ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.กะรน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายสุพจน์ กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามมาตรการจัดระเบียบชายหาด เพื่ออนุรักษ์ชายหาดแห่งนี้ไว้ให้กับสาธารณชน ที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ตดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีคำสั่งห้ามตั้งร่มเตียงและอุปกรณ์ค้าขาย หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดความเกะกะ สกปรก หรือรบกวนนักท่องเที่ยว แต่ยังพบว่ามีการบุกรุกใช้พื้นที่สาธารณะหาประโยชน์อีก จึงต้องมีการปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อกวาดล้างและจัดระเบียบชายหาด
“สำหรับการกระทำผิดส่วนใหญ่พบการนำสินค้ามาจำหน่าย เบื้องต้นจะมีการตั้งข้อหาในความผิดฐานบุกรุกพื้นที่ชายหาดเป็นสถานที่สาธารณะ ตามมาตรา 9 พ.ร.บ.ที่ดิน และมาตรา 122 โดยข้อหาหลัก ๆ ก็จะเป็นการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ ประกอบกับจังหวัดภูเก็ตมีคำสั่งการจัดระเบียบชายหาด ก็จะมีเรื่องการขัดคำสั่งเจ้าพนักงานอีก แต่ในส่วนใดที่เป็นร้านค้าผู้ประกอบการที่เข้าไปคาบเกี่ยว เข้าไปบุกรุกในพื้นที่ของเขตป่าไม้ ก็จะเป็นเหตุให้มีการเพิ่มโทษและข้อหาในหมวด ของความผิดตาม พ.ร.บ.ของป่าไม้ด้วย” นายสุพจน์ กล่าว
นอกจากนี้ รองผู้ว่าฯยังได้กล่าวถึงการอนุรักษ์ชายหาดและทรัพยากรธรรมชาติว่า ทางจังหวัดภูเก็ตได้มีการตั้งชมรมอนุรักษ์ชายหาดไว้ 22 ชมรม และแม้ผู้บุกรุกจะให้เหตุผลว่า “ต้องทำมาหากิน” ทางจังหวัดไม่สามารถยอมให้ได้ ตามนโยบายจัดระเบียบชายหาด เพื่อเปิดแหล่งท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก และจำเป็นต้องมีการแข่งขันในเรื่องซีแซนด์ซันกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ได้มีการขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวแข่งกับไทย จังหวัดภูเก็ตจึงจำเป็นต้องเดินหน้าในมาตรานี้อย่างเต็มที่ เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติและขับเคลื่อนให้การท่องเที่ยวเกิดความมั่นคงและยั่งยืนสืบไป
ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต