รัฐบาลยืนยันสนับสนุนการสร้างมูลค่ากัญชารองรับเศรษฐกิจสีเขียว

วันนี้ (28 มี.ค. 64) สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์รายงาน รัฐบาลยืนยันสนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มปลูกกัญชา-กัญชง รองรับเศรษฐกิจ BCG หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว แต่ต้องขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย

ข่าวภูเก็ต

วันอาทิตย์ ที่ 28 มีนาคม 2564, เวลา 13:56 น.

ภาพ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

ภาพ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2563 ได้ระบุว่า กัญชา และวัตถุหรือสารต่าง ๆ ที่มีอยู่ในพืชกัญชาและกัญชง อันเป็นชนิดย่อยของพืชกัญชาและวัตถุหรือสารต่าง ๆ ที่มีอยู่ในพืชกัญชง เช่น ยาง น้ำมัน ยกเว้นวัตถุหรือสารดังต่อไปนี้ เฉพาะที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตในประเทศ ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 ได้แก่ เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก ใบซึ่งไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วย

สารสกัดที่มีสารแคนนาบิไดออลเป็นส่วนประกอบและต้องมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก กากหรือเศษที่เหลือจากการสกัดกัญชาและต้องมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอลไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก เมล็ดกัญชง น้ำมันจากเมล็ดกัญชง หรือสารสกัดจากเมล็ดกัญชง กากหรือเศษที่เหลือจากการสกัดกัญชงและต้องมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอลไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก

แต่กรณีกัญชากฎหมายไม่อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปปลูกกัญชาได้ ผู้สนใจต้องรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม หรือสหกรณ์การเกษตร โดยร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อขออนุญาตปลูกกัญชา กรณีกัญชงสามารถยื่นขออนุญาตปลูก ณ สถานที่ปลูกตั้งอยู่ หากอยู่ที่กรุงเทพฯ ให้ยื่นที่ อย. หากอยู่ต่างจังหวัดให้ยื่นที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ส่วนการนำเข้าเมล็ดกัญชงให้นำเข้ามาเพื่อใช้ในการปลูกเท่านั้น

ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาการปลูกและแปรรูปกัญชา เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และงานวิจัย พร้อมลงบันทึกข้อตกลงระหว่างวิสาหกิจชุมชนกับหน่วยงานทางสาธารณสุข เพื่อยื่นขออนุญาตปลูกกัญชา ตามนโยบายและกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ได้มีชุมชนในภูเก็ตเทยอยขออนุญาตเพาะปลูกกัญชาในรูปแบบของวิสาหกิจชุมชนไปจำนวนหนึ่งแล้ว

ซึ่งล่าสุด อย.กำลังดำเนินการประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำข้อมูลทางวิชาการการปลูกกัญชงเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมและพิจารณาจัดตั้งตลาดกลางกัญชา กัญชง ให้เป็นศูนย์กลางรับซื้อรองรับและกระจายผลผลิตกัญชา กัญชงจากเกษตรกรรายย่อย ส่งไปยังภาคอุตสาหกรรมต่อไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่ต้องการปลูกกัญชา นายอนุชาเน้นย้ำให้ดำเนินการตามกฎหมายให้ถูกต้อง เพราะหากปลูกกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิดต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 บาท ถ้าเป็นการกระทำเพื่อจำหน่าย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 1,500,000 บาท

ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่