ความคืบหน้ากรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ชื่อนายโรเจอร์ จอห์น ฮัสซี สัญชาติ ออสเตรเลีย อายุ 70 ปี ได้ผลัดตกจากพาราเซลลิ่งเสียชีวิตเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณชายหาดกะตะ ต.กะรน (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
วันนี้ (13 ก.ค.60) พ.ต.ท.พิชัย สองเมือง รอง ผกก.สอบสวน สภ.กะรน รักษาราชการแทน ผกก.สภ.กะรน เปิดเผยว่า จะมีการส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายคือ นายมณเฑียร จันแดง เจ้าของเรือและเป็นคนขับเรือ กับนายรุ่งโรจน์ รักชีพ พนักงานควบคุมร่มต่อศาลจังหวัดภูเก็ตเพื่อทำการฝากขังไว้ก่อน หลังได้แจ้งข้อกล่าวหาประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ส่วนการสอบสวนได้ทำการสอบปากคำทั้งสอง พร้อมทั้งสอบปากคำนางบุษบง ธงสังกา ภรรยาของผู้เสียชีวิตไว้แล้วโดยสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากความประมาทของเจ้าของเรือและคนควบคุมเรือ แต่ก็ต้องรอผลการตรวจสภาพศพของผู้เสียชีวิต รวมถึงตรวจสอบพยานวัตถุและพยานบุคคลอื่นๆเพิ่มเติมอีกครั้ง
ขณะที่นายรุ่งโรจน์ เล่าว่า วันเกิดเหตุตนได้ทำการตรวจสอบการใช้อุปกรณ์อย่างละเอียดดีแล้ว ซึ่งในช่วงตอนร่มขึ้นก็ไม่มีปัญหา แต่หลังจากขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วนั้น ผู้ตายมีการปล่อยมือจากนั้นก็เหวี่ยงตัวและจึงมาจับที่จุดคลิปล็อก ทำให้เกิดปลดล็อกออกจากตัวร่มทันที ตนเองพยายามจะดึงตัวไว้แต่ดึงไม่อยู่ ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงที่มีกระแสลมแรงจึงทำให้ตัวผู้ตายร่วงหล่นลงทะเล สำหรับตนเองนั้นทำงานด้านนี้มากว่า 10 ปี ก็ใช้ความระมัดระวังตลอด และที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
ด้านนายอุทิศ คชลักษณ์ อายุ 55 ปี ผู้ที่ร่วมทำการช่วยเหลือเล่าเพิ่มเติมว่า ตอนตกลงมาผู้ตายยังรู้สึกตัวดีและพูดจารู้เรื่อง และพยายามจะลุกนั่ง แต่มีชาวต่างชาติที่เข้าไปช่วยด้วยกันบอกว่าอย่าลุก ไม่นานรถพยาบาลก็มาถึง และไปโรงพยาบาลโดย มีนางบุษบงนั่งไปด้วย ตนเองนั้นได้ขับรถตามไปที่โรงพยาบาล ทราบว่าช่วงแรกยังรู้สึกตัวดี ก่อนที่ตนจะออกมานั่งรอข้างนอก และแพทย์ได้มีการเจาะปอดเพื่อเอาเลือดที่คั่งออก จากนั้นมาทราบภายหลังว่าชีพจรหยุดเต้นและเสียชีวิต
อย่างไรก็ตามวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพิ่มเติมที่บริเวณชายหาด 3 แห่ง ซึ่งเป็นจุดที่มีเครื่องเล่นพาราเซลลิ่งให้บริการแก่นักท่องเที่ยว พบว่า ที่บริเวณหาดกะตะซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุในวันนี้ไม่มีพาราเซลลิ่งให้บริการนักท่องเที่ยว แต่ที่หาดกะรน และป่าตองยังคงให้บริการปกติ ซึ่งสอบถามในเบื้องต้นผู้ประกอบการได้มีการเพิ่มความระมัดระวัง ตรวจสอบอุปกรณ์และให้ความแนะนำแก่นักท่องเที่ยวอย่างละเอียดมากขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็รับฟัง และไม่กังวลถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งยังใช้บริการตามปกติ