วัดมหาธาตุวชิรมงคล ความงดงามอันโดดเด่น ตระการตา สะกดใจทั้งชาวไทยและต่างชาติ

กระบี่ - กลายเป็นอีกหนึ่งความประทับใจเมื่อได้พบเห็นผ่านโลกโซเชียล ในความงดงามและศิลปะอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ เรียกได้ว่าเห็นปุ๊บต้องรีบสืบค้น เตรียมแผนเก็บกระเป๋าเดินทางช่วงวันหยุดกันเลยทีเดียว

ข่าวภูเก็ต

วันศุกร์ ที่ 22 มิถุนายน 2561, เวลา 18:02 น.

วันนี้ ข่าวภูเก็ต จะขอนำเสนอประวัติของวัดมหาธาตุวชิรมงคล เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เตรียมข้อมูลกันสักเล็กน้อย ก่อนที่จะออกเดินทางไปเยี่ยมชมความงดงามแห่งพุทธสถานและพระมหาธาตุเจดีย์ที่มีความสูงถึง 95 เมตร แห่งนี้

วัดมหาธาตุวชิรมงคล เดิมชื่อวัดบางโทง ตั้งอยู่บ้านบางโทง หมู่ที่ 3 ตำบลนาเหนือ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ 117 ไร่ 2 งาน 31 ตารางวา พื้นที่ตั้งวัดเป็นพื้นที่ราบ สภาพแวดล้อมเป็นสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน

สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 2483 ในที่ดินบริจาคของนายเปล้า ทองศิริ นายมั่น เพ่งกิจ และนายน่วม ดำพันธ์ โดยพระสมุห์เส้ง ญาณพโล ร่วมกันพุทธบริษัท ช่วยกันสร้างขึ้นมา และได้พัฒนาต่อเนื่องมาจนมีฐานะเป็นวัดที่มั่นคง และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2496 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 30 เมตร ยาว 70 เมตร ได้ทำพิธีผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2519 มีเจ้าอาวาสปกครองติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน 4 รูป เจ้าอาวาสรูปที่ 1 คือ พระสมุห์เส้ง ญาณพโล ปกครองวัดตั้งแต่ ปี 2483 – 2517, รูปที่ 2 พระครูประทีปคุณาธร, รูปที่ 3 พระอธิการศึก ตโมนุโท และรูปที่ 4 พระราชวชิรากร (พิศาล ปุรินฺทโก) ปกครองวัดตั้งแต่ ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน

วัดมหาธาตุวชิรมงคลปูชนียวัตถุที่สำคัญ คือ พระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับพระราชทานจาก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อครั้งยังทรงดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร, พระพุทธรูปปางแสดงปฐมเทศนาขนาดหน้าตักกว้าง 3 เมตร และ รูปเหมือนหลวงปู่ทวดขนาดหน้าตักกว้าง 9 เมตร 9 นิ้ว

นับตั้งแต่พระราชวชิรากร มาเป็นเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวชิรมงคล เมื่อปี 2545 ได้พิจารณาเห็นว่า เสนาสนะต่าง ๆ ภายในวัดได้ชำรุดทรุดโทรมเป็นจำนวนมาก จึงได้ทำการรื้อถอนอาคารเสนาสนะที่มีอยู่เดิมทั้งหมด ยกเว้นอุโบสถ จำนวน 1 หลัง ดั้งนั้นอาคารเสนาสนะของวัดมหาธาตุวชิรมงคลในปัจจุบัน ล้วนเป็นอาคารเสนาสนะที่ได้ดำเนินการก่อสร้างขึ้นใหม่ในสมัยพระราชวชิรากรทั้งสิ้น ยกเว้นอุโบสถหลังเก่า

นอกเหนือจากเรื่องการพัฒนาถาวรวัตถุภายในวัดแล้ว พระราชวชิรากร เจ้าอาวาสได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาของคณะสงฆ์ จึงได้ทำการก่อสร้างอาคารเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม-บาลีขึ้น เพื่อให้เป็นสถานที่ศึกษาเรียนรู้ ธรรม-บาลี ของพระภิกษุสามเณรของวัดและพระภิกษุสามเณรที่มีความสนใจ ที่จะศึกษา

ในปี 2545 ชาวจังหวัดกระบี่ ซึ่งประกอบด้วยคณะสงฆ์ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า และประชาชน ได้ร่วมกันจัดทำโครงการจัดสร้างพุทธสถานและพระมหาธาตุเจดีย์ เฉลิมพระเกียรติ “๕๐ พรรษา มหาวชิราลงกรณ” ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงมีพระชนมายุครบ 50 พรรษา ในปี 2549 เพื่อเป็นสถานที่จรรโลงพระพุทธศาสนา โดยเป็นศูนย์รวมสถานที่ศึกษาธรรมของภิกษุสามเณร นักเรียน นักศึกษา และพ่อค้าประชาชน ตลอดจนหน่วยงานข้าราชการต่าง ๆ ใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจการทางศาสนาในด้านต่าง ๆ โดยโครงการนี้ได้รับพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณาและประสานงานโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ของมูลนิธิกาญจนบารมี โดยอยู่ในแผนการดำเนินงานโครงการเฉลิมพระเกียรติ “๕๐ พรรษา มหาวชิราลงกรณ” ลำดับที่ 13 ใช้งบประมาณในการดำเนินงานประมาณ 500 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างและตกแต่งพุทธสถานและพระมหาธาตุเจดีย์

นอกจากนี้แล้ว วัดมหาธาตุวชิรมงคลยังเป็นวัดที่ได้รับพระราชทาน พระบรมราชานุญาตจากสมเด็จพระบรมโอรสาราช ฯ สยามกฎราชกุมาร ดังนี้

1. ให้อัญเชิญพระนามาภิไธยย่อ “ม.ว.ก.” ขึ้นประดิษฐานที่หน้าบันอุโบสถ
2. พระพุทธปฎิมาประจำพระชนมวารฯ ใช้พระนามว่า “พระพุทธทักษิณชัยมงคล”
3. เปลี่ยนชื่อวัดจาก “วัดบางโทง” เป็นวัดมหาธาตุวชิรมงคล” ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีประกาศเปลี่ยนชื่อจาก “วัดบางโทง” เป็น “วัดมหาธาตุ - วชิรมงคล” ตามที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2549และให้อัญเชิญพระนามาภิไธยย่อ “ม.ว.ก.” ขึ้นประดิษฐานที่หน้าบรรทั้ง 4 หน้าของวิหารที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง เมื่อปี 2559

วัดมหาธาตุวชิรมงคล เป็นวัดที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามบรมราชกุมาร ทรงโปรดเกล้าให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณวรีนารีรัตน์ เสด็จแทนพระองค์เป็นประธานประกอบพระราชพิธีทรงวางศิลาฤกษ์มหาธาตุเจดีย์ และทรงเททองหล่อ พระพุทธปฎิมากรประจำพระชนมวาร ฯ ตามโครงการ “50 พรรษามหาวชิราลงกรณ” เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548

ทั้งยังเป็นวัดศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของจังหวัดกระบี่ ศูนย์กลางในการอบรมคุณธรรม จริยธรรม ของจังหวัดกระบี่ มีการจัดอบรมคุณธรรม จริยธรรม ให้กับข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้าประชาชน รวมถึงหน่วยงานราชต่าง ๆ และเป็นวัดที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านพุทธธรรมที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกระบี่ เจ้าอาวาสมีวัตรปฏิบัติเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

โดยปัจจุบันวัดมหาธาตุวชิรมงคล ในปัจจุบัน มี พระภิกษุจำพรรษา ประมาณ 15 รูป สามเณร 3 รูป และแม่ชีจำนวน 15 คน

แหล่งที่มา : สำนังงานวัดมหาธาตุวชิรมงคล

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่