“สมาคมฯ จะไปยื่นเรื่องเพื่อขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบผ้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้ผู้ต้องหาในคดีอาญาหลบหนีออกนอกประเทศ อันเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ เพื่อไม่ให้เป็นกรณีเยี่ยงอย่าง ไม่ให้เกิดเกียร์ว่างอย่างไม่รับผิดชอบต่อไป” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า คดีนี้ไม่ใช่คดีที่มีความสลับซับซ้อนยุ่งยากแต่อย่างใด หากตำรวจเจ้าของสำนวนและอัยการจะเร่งรีบทำสำนวนส่งฟ้องคดีต่อศาล แต่กลับกลายเป็นการปล่อยให้ผู้ต้องหาหนีคดีจนเป็นกรณีอื้อฉาวระดับโลก และเป็นคดีรถชนที่ยืดเยื้อที่สุดในประวัติศาสตร์ เนื่องจากกระบวนการไม่เร่งรีบหรือไม่ใส่ใจที่จะกระทำการนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียมตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้อย่างน้อย 4 ข้อหาหมดอายุความไป สะท้อนให้เห็นถึงข้อวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมดังคำกล่าวที่ว่าคุกมีไว้ขังคนจน ซึ่งสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยไม่สามารถยอมรับได้
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตำรวจได้ดำเนินการติดตามตัวนายวรยุทธมาดำเนินคดีในทุกช่องทาง โดยกองการต่างประเทศ ซึ่งรับผิดชอบงานตำรวจสากลได้ออกหมายจับแดงไปยัง 190 ประเทศสมาชิกตำรวจสากลให้มีการติดตามตัวนายวรยุทธแล้ว
“หากประเทศใดพบเบาะแสก็จะแจ้งและจับกุม แต่ขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดตอบกลับมา โดยคดีนายวรยุทธยังคงมีข้อหาหนักที่ยังเหลืออยู่คือ ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งยังเหลืออายุความอีก 10 ปี ส่วนที่มีการพูดถึงในลักษณะว่า มีเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือแก่นายวรยุทธนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เน้นย้ำว่าหากมีเบาะแสก็ให้แจ้งมาได้ทันที” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
โดยเมื่อ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับ"บอส วรยุทธ"ขับรถชนดาบตำรวจสน.ทองหล่อมีอายุความ 15 ปี
หลังจากที่ ร.ต.อ.อาทิตย์ เกตุทอง ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติออกหมายจับนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นให้เฉี่ยวชนรถอื่นเสียหายมีผู้ถึงแก่ความตาย, ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหายและไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในทันที โดยหมายจับดังกล่าวมีอายุความ 15 ปี นับตั้งแต่ 3 กันยายน 2555 ถึง 3 กันยายน 2570
ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ล่าสุดพบว่านายวรยุทธหลบหนีอยู่ในไต้หวัน