วิสามัญคนร้ายคดีสำคัญหนีจากภูเก็ตยิงสู้ตร.เจ็บ 2 พ่อใช้มีดพร้าฟันต้นคอ ตร.เจ็บเพิ่ม 1

นครศรีธรรมราช - เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลานสกา ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช รายงานเหตุวิสามัญคนร้ายตามหมายจับในคดีสำคัญ ภายหลังจากคนร้ายเปิดฉากยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายนาย ก่อนจะเปิดฉากยิงต่อสู้และวิสามัญคนร้ายเสียชีวิตในที่สุด

เกียรติกุล ชูมณี

วันจันทร์ ที่ 31 สิงหาคม 2563, เวลา 14:57 น.

วันนี้ (31 ส.ค.) เวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ลานสกา ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับคดีสำคัญชื่อ นายอุดม รัตนมณี ว่าได้มากบดานอยู่ในพื้นที่ ม.12 ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้น ชุดสืบสวน สภ.ลานสกา ชุดสืบสวน สภ.กมลา จ.ภูเก็ต และชุดสืบสวน ภ.จว.นศ. ได้จัดชุดกำลังมาเพื่อขอตรวจค้น บ้านหลังดังกล่าว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นให้เจ้าของบ้านทราบ ซึ่งมีนางอุทัย และ นายปรีชา รัตนมณี เป็นเจ้าของบ้าน

จากนั้นผู้ต้องหาคือนายอุดม (ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีสำคัญ) ซึ่งเป็นบุตรชายเจ้าของบ้านพร้อมภรรยา ที่หลบซ่อนอยู่บนบ้านหลังดังกล่าว ได้เปิดฉากยิงอาวุธปืนใส่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม โดยนายอุดมได้ใช้อาวุธปืนเล็กยาว (ปลย.) M16 และปืนพกสั้นขนาด .45 มม. กราดยิงใส่เจ้าหน้าที่ทำให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 นาย ประกอบด้วย พ.ต.ท.ประมูล คงชู (สว.สส.สภ.กมลา) ได้รับบาดเจ็บบริเวณนิ้วมือด้านขวา และบริเวณศรีษะด้านขวา และ อส.ตร.ถนอมศักดิ์ วิสุทธิ์ศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณน่องด้านซ้าย

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมต้องยิงตอบโต้อยู่ประมาณ 15 นาที และผู้ต้องหาโดนวิสามัญ และต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเข้าเคลียร์พื้นที่ ได้มีเจ้าหน้าตำรวจอีก 1 นายคือ ด.ต.วัฒนา กาญจนะ ผบ.หมู่.สส.สภ.กมลา ได้รับบาดเจ็บโดนฟันบริเวณต้นคอ ในขณะเข้าจับกุมภรรยาของผู้ต้องหาที่เสียชีวิต โดยนายปรีชาซึ่งเป็นบิดาของผู้ต้องหาเป็นผู้ลงมือฟันด้วยอาวุธมืดพร้า ในขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุมตัวผู้กระทำผิดในขณะเดียวกันก็ได้นำตัวเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลลานสกาเพื่อทำการรักษาต่อไป

ล่าสุดในช่วงบ่ายของวันนี้ พ.ต.อ.สมคิด ดำเกลี้ยง ผกก.ลานสะกา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายปรีชาพร้อมตั้งข้อกล่าวหา “พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติการตามหน้าที่ และขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่” ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ทั้งนี้ เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ในเดือนกันยนยาน 2561 นายอุดมเคยถูกจับกุมในข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” โดยถือเป็นผู้ต้องหายาเสพติดรายสำคัญซึ่งชักชวนเพื่อนร่วมคุกก่อเหตุซ้ำซ้อน

สำหรับการจับกุมในครั้งนั้น นายอุดมและพวกถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตจับกุมพร้อมของกลาง ยาบ้าเกือบ 4 หมื่นเม็ด รวมถึงยาไอซ์และเฮโรอีน พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบมูลค่าทรัพย์สินนับล้านบาท

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่