วิ่ง 70 กม. รอบเกาะภูเก็ต ระดมเงินทุนช่วยเหลือผู้ยากไร้และกำลังเดือดร้อนจากโควิด-19

วิ่ง - ตลอดระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตมีงานการกุศลเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน เพื่อนำเงินรายได้ไปช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

ข่าวภูเก็ต

วันอาทิตย์ ที่ 4 กรกฎาคม 2564, เวลา 10:08 น.

วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา มาร์ค กิลเลท (Mark Gillett) นักวิ่งผจญภัยชาวอังกฤษ อายุ 36 ปี จากโรงเรียนนานาชาติขจรเกียรติ ภูเก็ต (KIS Phuket) ก็เป็นอีกคนที่ได้ทุ่มเทระดมทุนเพื่อผู้ที่กำลังรอคอยความช่วยเหลือ ด้วยการวิ่งระยะทางกว่า 70 กม. รอบเกาะภูเก็ตในโครงการ “วันภูเก็ต” (One Phuket) เพื่อระดมเงินบริจาคให้กับ Scholars of Sustenance เส้นทางการวิ่งตามแนวชายฝั่งตะวันตก เริ่มจากปลายสุดทางใต้ ณ แหลมพรหมเทพไปจนถึงสะพานสารสินทางทิศเหนือของเกาะ ข้ามเนินเขาและผ่านหาดทราย ตลอดระยะเวลา 9 ชั่วโมงของการวิ่ง

มาร์ควางแผนการวิ่งบนเส้นทางที่ใกล้กับทะเลมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเริ่มความพยายามครั้งสำคัญนี้ในเวลา 04.00 น. เนื่องจากเขาต้องการวิ่งให้ได้ระยะทางมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่การวิ่งครั้งนี้จะได้รับผลกระทบจากความร้อนและความชื้นของบรรยากาศรอบตัว สำหรับการวิ่งในครั้งนี้มาร์คโซโลวิ่งคนเดียวตลอดเส้นทาง แต่ในขณะเดียวกันก็ได้มีผู้ร่วมวิ่งจำนวนหนึ่งที่ได้เข้ามาวิ่งในบางระยะ เพื่อเป็นการสนับสนุนและให้กำลังใจเขา ในการทำภารกิจระดมทุนเพื่อจัดซื้ออาหารให้ผู้ที่กำลังขาดแคลนได้อย่างสำเร็จ เฉกเช่นในปีที่ผ่านมาที่โครงการดี ๆ อย่าง “วัน ภูเก็ต” ก็ได้ให้การสนับสนุนแบ่งปันอาหารจำนวนมากสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

นอกจากนี้ เขายังได้วางแผนที่จะลงทะเบียนความท้าทายของเขาครั้งนี้กับ The Fastest Known Time ซึ่งเป็นองค์กรที่บันทึกเส้นทางและเวลา สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งทั่วโลก มาร์คหวังว่าความท้าทายของเขาจะดึงดูดและช่วยให้ผู้คนสนใจเส้นทางนี้และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น

“เท่าที่ผมรู้ ยังไม่มีใครทำแบบที่ผมทำมาก่อน” มาร์ค เปิดเผยกับ The Phuket News “หากความพยายามของผมสามารถช่วยคนบนเกาะภูเก็ต ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดใหญ่ครั้งนี้ได้จริง ๆ มันก็คุ้มเกินคุ้มแล้ว”

แต่สิ่งที่น่าทึ่งไปกว่านี้ก็คือมาร์คเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรงเมื่อสองเดือนก่อนนี้เอง และนั่นก็นับเป็นเรื่องใหญ่ที่ขัดขวางการฝึกและการเตรียมตัวของเขา แต่เขาก็พยายามฝึกซ้อมเพิ่มขึ้นในแต่ละสัปดาห์ ด้วยการเพิ่มระยะทางประมาณ 10% ในทุก ๆ สัปดาห์ ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

มาร์คเล่าว่า โดยปรกติแล้วเขาจะวิ่งเทรลภายในเกาะภูเก็ตเป็นการฝึกซ้อมหลักและเพิ่มความเร็วมากขึ้นในแต่ละสัปดาห์ และบวกกับการฝึกยืดหยุ่นร่างกายเช่นโยคะ เพื่อช่วยในการปรับสภาพร่างกายและหวังว่ามันจะช่วยลดโอกาสในการได้รับบาดเจ็บได้ เขาย้ายมาภูเก็ตเมื่อสองปีก่อนพร้อมครอบครัว และเป็นการมาภูเก็ตครั้งแรกของเขา มาร์คเป็นนักผจญภัยกลางแจ้งตัวยง เขารักมันตั้งแต่เขาจำความได้ ไม่ว่าจะเป็น การปั่นจักรยานหรือวิ่งในบ้านเกิดของเขาที่ลอนดอน จากการวิ่ง 10 กม. และฮาล์ฟมาราธอนเป็นครั้งคราว ปีนเขา และผจญภัยด้วยจักรยานเสือภูเขา เขาจะตั้งเป้าหมายใหม่ทุกปี ซึ่งเป้าใหม่ใหม่นั้นจะต้องยากมากขึ้นกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา

ในระหว่างช่วงล็อกดาวน์ปีที่แล้ว เขากลายเป็นคนแรกในประเทศไทยที่เข้าร่วมพิชิตเส้นทางวิ่งเอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นภารกิจที่สุดโหดหิน ที่ผู้เข้าร่วมต้องไต่ระดับความลาดชันซ้ำ ๆ ให้เท่ากับความสูง 8,849 เมตร ของยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ซึ่งในตอนนั้นก็มีคนทำสำเร็จเพียงไม่ถึง 100 คนทั่วโลก

“ผมรู้สึกทึ่งกับปฏิกิริยาอันแข็งแกร่งของจิตใจและร่างกายเมื่อถูกกระตุ้นอย่างจริงจัง นักวิ่งระยะไกลบนเส้นทางท้าทายมักจะพูดถึงช่วงเวลาเลวร้ายที่สุด ที่รู้สึกเหมือนกับการวิ่งชนกำแพงเข้าไปสู่ความมืดมิด แต่การที่จะวิ่งผ่านจุด ๆ นั้นเพื่อไปยังอีกด้านของความท้าทาย มันจึงเป็นอะไรที่น่าสนใจสำหรับผมมาก ๆ”

“และแน่นอนว่า การระดมเงินทุนเพื่อการใช้จ่ายที่เป็นประโยชน์ และไปถึงผู้ที่ต้องการมันจริง ๆ ทุกความเจ็บปวดมันก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว”

ร่วมสนับสนุนความพยายามมาร์ค ได้โดยบริจาคให้โครงการ One Phuket ผ่านเพจเฟซบุ๊ก One Phuket และติดตามการผจญภัยของมาร์คได้ทาง
อินสตาแกรม: markgonarun

เรื่อง: เบน ไทร์เออร์บัค / editor3@classactmedia.co.th

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่