พล.ร.ท.เชิงชาย กล่าวว่า ศรชล.ภาค 3 ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในฝั่งอันดามัน โดยป้องกันภัยที่สามารถควบคุมได้ให้รัดกุมที่สุด และเตรียมการรับมือกับภัยที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมได้ให้ดีที่สุด เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในทางลบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของฝั่งอันดามันและประเทศไทยซึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการป้องกันและรับมือกับอุบัติภัยทางทะเลคือความร่วมมืออันเข้มแข็งของทุกภาคส่วน
ศรชล.ภาค 3 จึงได้จัดการสัมมนาฯ ภาควิชาการ ระหว่างวันที่ 3-4 มีนาคม ที่โรงแรมเดอะพาโก้ดีไซน์ภูเก็ต และภาคปฏิบัติในวันที่ 5 มีนาคม เป็นการฝึกช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจากอุบัติภัยทางทะเล ที่บริเวณอ่าวหน้ากองบัญชาการ ศรชล.ภาค 3 มี พลเรือตรี สุชาติ ธรรมพิทักษ์เวช เป็น ผู้อำนวยการฝึก
โดยสมมุติเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 3 เหตุการณ์ ได้แก่
1.กลุ่มนักท่องเที่ยวหลายคนพายเรือคายัคโดนคลื่นซัดเรือจม
2.เรือสปีดโบ๊ทไฟไหม้ ผู้โดยสารกระโดดลงน้ำและมีคนสูญหาย
3.เรือชนกัน มีผู้บาดเจ็บและได้รับการช่วยเหลือโดยการขนถ่ายบุคคลขึ้น ฮ.
มีกำลังทางเรือจากหน่วยงานรัฐและเอกชน เข้าร่วมการฝึกรวม 10 ลำ ประกอบด้วย เรือหลวงศรีราชา, เรือต.113,เรือจากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขา 5, เรือ จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, เรือจาก กองกำกับการ 8 ตำรวจน้ำ, เรือจากบริษัทนิกรมารีนจำกัด, เรือจากบริษัทนนทศักดิ์มารีนจำกัดและ เฮลิคอปเตอร์ ลำเลียงแบบที่ 4 จากทัพเรือภาคที่ 3
การฝึกปฏิบัติครั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติการรักษาความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล การตอบสนองต่อภัยคุกคาม และการจัดการสถานการณ์ทางทะเลตามอำนาจหน้าที่ของศรชล.ภาค 3 และเพื่อทดสอบการปฏิบัติงานของศูนย์ยุทธการ ศรชล.ภาค 3 รวมถึงหน่วยที่เกี่ยวข้อง แล้วนำข้อมูลมาปรับปรุงเพื่อจัดทำ SOP (Standard Operating Procedure) สำหรับใช้ในการปฏิบัติงานร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานในศรชล.ภาค 3
พล.ร.ท.เชิงชาย กล่าวต่อไปว่า ผลจากการสัมมนาที่ได้ทางศรชล.ภาค 3 จะรวบรวมจัดทำเป็นแนวทางการบูรณาการป้องกันและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจากอุบัติภัยทางทะเล เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ใช้เป็นกรอบแนวทางในการจัดทำแผนงานหรือโครงการต่าง ๆ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ในส่วนที่เกินขีดความสามารถของหน่วยต่าง ๆ ศรชล.ภาค 3 จะช่วยผลักดันไปยังหน่วยเหนือหรือหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาดำเนินการอีกทางหนึ่ง
ส่วนผลการฝึกการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลนั้น ทำให้หน่วยต่าง ๆ ที่เข้าร่วมการฝึกได้ทราบถึงความพร้อมของตนเองและได้รับบทเรียนต่าง ๆ ที่ได้จากการฝึกที่จะนำไปพัฒนาปรับปรุงการปฏิบัติให้ดียิ่งขึ้น
"การฝึกปฏิบัติมีการจำลองสถานการณ์การฝึกที่เคยเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงยังมีปัญหาข้อขัดข้อง ให้ทุกหน่วยงานได้มาทำความเข้าใจและประสานงานกัน เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงการปฏิบัติจะได้เป็นตามแนวทางที่ถูกต้อง ไม่เกิดอุบัติภัยร้ายแรงซ้ำเหมือนกับที่ผ่านมา ซึ่งผลการฝึกทุกหน่วยเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติการติดต่อสื่อสาร แนวทางให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ผลการฝึกเป็นไปด้วยดี ทำให้ศรชล.ที่รับบทบาทการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สามารถปฏิบัติงานได้ดีมีหน่วยงานที่เข้ามาร่วมการปฏิบัติในโอกาสต่อไป”
“โดยผลที่ได้จากการสัมมนาและการฝึกครั้งนี้ นับว่าเป็นประโยชน์ที่จะช่วยเสริมสร้างให้การป้องกัน และการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจากอุบัติภัยทางทะเลฝั่งอันดามันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวทางทะเลในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งทำให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวม”
ปัจจุบันภูเก็ตยังมีปัญหานักท่องเที่ยวที่หายไปจาก COVID-19 ถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้มาจัดระเบียบการท่องเที่ยวของภูเก็ต โดยศรชล.ภาค 3 จะเข้าไปบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดูแลการจัดระเบียบเรือท่องเที่ยว การจัดระเบียบในเรือ ลูกเรือ ให้มีแนวทางช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ โดยจะมีการจัดอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้องเรื่องความปลอดภัยการเดินเรือในพื้นที่จำกัด หรือแนวทางมาตรการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวหากเกิดประสบภัยทางทะเล ทางศรชล.ภาค 3 จะเข้าไปบูรณาการจัดระเบียบในส่วนนี้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป พล.ร.ท.เชิงชาย กล่าว
