สธ.เข้มดูแลคนไทยกลับจากอู่ฮั่น ควบคุมโรคใกล้ชิด 14 วัน วันเดียวไทยเข้าข่ายติดเชื้อเพิ่ม 7

กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมพร้อมมาตรการดูแลคนไทยกลับจากอู่ฮั่น ทั้งระบบเฝ้าระวัง คัดกรองก่อนขึ้นเครื่อง ดูแลสุขภาพกายใจระหว่างและหลังเดินทาง รวมถึงการสื่อสารกับญาติ พร้อมทั้งกล่าวถึงรายงานสถานการณ์ล่าสุด ณ วันนี้ ยืนยันมีผู้ป่วยติดเชื้อขณะนี้นอนในโรงพยาบาล 11 ราย กลับบ้านแล้ว 8 ราย รวมสะสม 19 ราย

ข่าวภูเก็ต

วันอังคาร ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563, เวลา 17:13 น.

ภาพ ทำเนียบรัฐบาล

ภาพ ทำเนียบรัฐบาล

ทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยผ่านเว็บไซต์รัฐบาลไทยว่าวันนี้ (4 ก.พ.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการเตรียมการดูแลกลุ่มคนไทยในอู่ฮั่น ที่รัฐบาลส่งเครื่องบินไปรับกลับประเทศว่า ช่วงเช้าวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปส่งทีมแพทย์ ประกอบด้วย แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน แพทย์ระบาดวิทยา จิตแพทย์ และพยาบาล ร่วมเดินทางไปให้การดูแลคนไทยทุกคนที่จะขึ้นเครื่องบินสายการบินแอร์เอเชียกลับไทย

โดยมีมาตรการดูแล 3 ส่วน ประกอบด้วย มาตรการเฝ้าระวังก่อนเดินทาง จะมีการคัดกรองสุขภาพโดยทีมของทางการจีนก่อนขึ้นเครื่อง, มาตรการดูแลขณะการเดินทางและเมื่อถึงประเทศไทย ทีมแพทย์ไทยจะให้การดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตไปพร้อมกัน ระหว่างอยู่บนเครื่องจะคัดกรองซ้ำ เพื่อแยกผู้ที่อาจมีอาการป่วยออกจากคนอื่นและให้การดูแลในพื้นที่ที่แยกไว้ เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยจะวัดไข้ซ้ำอีกครั้ง ผู้ที่มีอาการป่วยจะส่งไปรับการรักษาตามมาตรฐาน ส่วนผู้ที่ยังไม่มีอาการจะได้รับการดูแลติดตามอาการอย่างใกล้ชิดทุกวันจนครบ 14 วันตามมาตรฐานการเฝ้าระวังควบคุมโรค และ การสื่อสารญาติเพื่อลดความวิตกกังวล

ในขณะเดียวกันสธ.ยังได้จัดกิจกรรม Big Cleaning Week จิตอาสาสู้ภัยโคโรนาไวรัส พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชน ผู้ประกอบการ และหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันทำความสะอาดพื้นที่ผิว เช่น ลิฟต์ ประตู ห้องสุขา โรงอาหาร โต๊ะทำงาน เบาะนั่งรถสาธารณะ ราวบันได-ราวจับในตัวรถ เป็นต้น และสร้างสุขนิสัยในป้องกันตนเองโดยยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการป่วย โดยในบ่ายวันนี้จะเริ่มรณรงค์จุดแรกที่จุดรวมรถแท็กซี่ อาคารคลังสินค้า 2 สนามบินดอนเมือง

นพ.ณรงค์ ขอให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัยอย่างเหมาะสม กรณีไม่ป่วยใช้แบบผ้าทั่วไปได้ ส่วนผู้ป่วย ผู้ดูแลผู้ป่วย ควรเลือกใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ และหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วจะต้องทิ้งอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเชื้อโรค โดยพับหน้ากากอนามัย ม้วนใส่ถุงที่ปิดสนิท แล้วทิ้งลงในถังขยะที่มีฝาปิด และล้างมือทุกครั้งหลังทิ้ง หากเป็นหน้ากากผ้าควรมีสำรองอย่างน้อย 2 ผืน เมื่อใช้แล้วต้องซักทำความสะอาด ตากแดดให้แห้งเพื่อฆ่าเชื้อทุกครั้ง

สำหรับสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ประจำวันนี้ ข่าวทำเนียบรัฐบาลรายงาน ณ เวลา 08.00 น. ว่า “มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อขณะนี้นอนในโรงพยาบาล 11 ราย กลับบ้านแล้ว 8 ราย รวมสะสม 19 ราย” โดยเมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) เพียงวันเดียวพบผู้ป่วยใหม่เข้าเกณฑ์เพิ่มอีก 7 ราย

ในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.-3 ก.พ. 63 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสม 492 ราย คัดกรองจากสนามบิน 43 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 449 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 119 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 373 ราย โดยวันที่ 3 ก.พ. พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่ 7 ราย

สถานการณ์ทั่วโลกใน 26 ประเทศ ข้อมูลตั้งแต่ 5 ม.ค.-3 ก.พ. พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 17,205 ราย ส่วนประเทศจีน ข้อมูล ณ วันที่ 3 ก.พ. พบผู้ป่วย 17,079 ราย เสียชีวิต 361 ราย

โอกาสนี้ รัฐบาลไทยขอความร่วมมือปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของสธ. อย่าเชื่อข่าวลือจากแหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก และมีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และงดแชร์ข้อมูลผู้ป่วยทางสื่อออนไลน์ หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์กรมควบคุมโรค(คลิก) และ Line@/เฟซบุ๊ก: รู้กันทันโรค, Coronavirus2019, กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และสามารถตรวจสอบข่าวลวงได้ที่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(คลิก

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่