สธ.เผยผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 89 วัยหนุ่มสาว สะสมทั่วไทย 411 ราย ภูเก็ตติดเชื้อรวม 7

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19)ประจำวันที่ 21 มีนาคม 2563 ณ เวลา 08.00 น. ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรวมสะสม 411 ราย โดยมีผู้ป่วยเพิ่ม 89 ราย รักษาในโรงพยาบาล 366 ราย กลับบ้านแล้ว 44 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยอาการหนักมี 7 ราย ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ขอประชาชนอย่าวิตกกังวล ทำตามคำแนะนำสธ.อย่างเคร่งครัด

ข่าวภูเก็ต

วันเสาร์ ที่ 21 มีนาคม 2563, เวลา 17:41 น.

โดยแบ่งผู้ป่วยรายใหม่ 89 รายเป็น 2 กลุ่ม ดังต่อไปนี้

กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 51 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย 32 ราย, กลุ่มสถานบันเทิง 2 ราย, กลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 11 ราย และกลุ่มที่เข้าร่วมพิธีทางศาสนาในประเทศมาเลเซีย 6 ราย

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 38 ราย ได้แก่ กลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศ/ชาวต่างชาติ 12 ราย ใน จำนวนนี้มีหลายรายที่มีประวัติเดินทางกลับจากเที่ยวผับปอยเปต ที่ประเทศกัมพูชา ร่วมกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้, กลุ่มผู้ทำงานหรืออาศัยในสถานที่แออัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 6 ราย และรอผลสอบสวนโรค / ประวัติเสี่ยงเพิ่มเติม 20 ราย

สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดภูเก็ต ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ตรายงานว่า ล่าสุดมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 สะสม 7 คน กลับบ้านแล้ว 2 คน ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสม 565 คน รายใหม่ 9 คน ยังไม่มีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต สำหรับผลการตรวจหาเชื้อผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังจากจำนวนทั้งสิ้น 565 คน พบเชื้อแล้ว 7 คน ไม่พบเชื้อ 541 คน และกำลังอยู่ระหว่างการรอผลจำนวน 17 คน (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยในโอกาส ประชุมร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตและภาคเอกชนวันนี้ (21 มี.ค.) ว่าจังหวัดต้นแบบที่จะควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ผ่านมาได้มีการคัดกรอง ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากอู่ฮั่น ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น ทั้งทางอากาศ คือ ท่าอากาศยานภูเก็ต ทางท่าเทียบเรือ และในเร็วๆ นี้ จะดำเนินการคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้ามาทางบก บริเวณด่านท่าฉัตรไชย ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดกำลังออกแบบวางระบบและและเตรียมความพร้อมทั้งอุปกรณ์เครื่องมือและบุคลากร

โดยตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.-21 มี.ค.63 พบผู้ติดเชื้อยืนยัน แล้ว 7 ราย โดยรายแรกเป็นผู้หญิงชาวจีน อายุ 32 ปี นักท่องเที่ยวจากเมืองอู่ฮั่น ได้ติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด 14 ราย พบว่าทุกคนผลเป็นปกติ และได้กักตัวครบ 14 วันแล้ว, รายที่ 2 เป็นชายชาวจีน 35 ปี เป็นนักท่องเที่ยวจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งได้ติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด 51 ราย ทุกคนผลเป็นปกติ และได้กักตัวครบ 14 วันแล้ว โดยผู้ติดเชื้อชาวจีนทั้ง 2 ราย ได้รับการรักษาหายดีและเดินทางกลับประเทศแล้ว

รายที่ 3-5 เป็นครอบครัวนักท่องเที่ยวจากประเทศเดนมาร์ก พ่อ แม่ และลูกอายุ 7 ปี ซึ่งยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ยังได้ติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด 32 ราย เบื้องต้นไม่พบเชื้อ แต่ยังอยู่ระหว่างกักตัวให้ครบ 14 วัน

ส่วนรายที่ 6-7 เป็นแม่ลูก (แม่คนไทย สามีเป็นชาวอิตาลี) โดยได้ติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 29 ราย เบื้องต้นไม่พบเชื้อแต่ยังอยู่ระหว่างการติดตามให้ครบ 14 วัน

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ที่พบในช่วงนี้ สธ.ระบุว่าเป็นวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน มีพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ลดกิจกรรมทางสังคม ไม่เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อาจทำให้นำโรคไปติดคนใกล้ชิดในครอบครัว รวมทั้งเพื่อนๆ ที่สำคัญโรคนี้มีความรุนแรงในกลุ่มเปราะบาง คือ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้มีโรคประจำตัว

คำแนะนำ

ขอให้ประชาชนยึดหลักปฏิบัติตามคำแนะนำของสธ. งดร่วมกิจกรรมทางสังคม เว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก งด/ลด การเดินทางโดยไม่จำเป็น ไม่ไปในพื้นที่แออัด ทำงานอยู่ที่บ้าน หากประชาชนช่วยกันปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด จะทำให้ช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคได้

ผู้ที่เคยไปในพื้นที่ที่มีรายงานผู้ป่วย ให้กักกันตัวเองที่บ้านอย่างเคร่งครัดอย่างน้อย 14 วัน ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้อื่น สังเกตอาการ หากยังไม่มีอาการ ไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ยังไม่ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ เพราะหากยังไม่มีอาการโอกาสตรวจพบเชื้อมีน้อยมาก จะทำให้ขาดการระมัดระวังตัวเองและคิดว่าตนเองยังไม่ติดเชื้อ

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่