วันนี้ (21 ม.ค.) นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต ว่านับตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. เป็นต้นมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต (สสจ.ภูเก็ต) ได้ร่วมกับ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานภูเก็ต ทำการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกน บริเวณโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ เพื่อคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส ณ สนามบินภูเก็ต (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
ซึ่งจนถึงปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้ทำการเฝ้าระวังและคัดกรองผู้โดยสารที่มีอาการไข้ และอาการที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ ในผู้โดยสารที่เดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตมากกว่า 4 พันคน และพบว่าในจำนวนนั้นพบผู้เข้าข่ายต้องสงสัยจำนวน 4 ราย
“นับตั้งแต่ที่มีการเฝ้าระวังกันตั้งแต่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เราได้ทำการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นอย่างเข้มข้นแล้วกว่า 4 พันคน โดยเฉพาะในช่วงนี้ซึ่งเป็นเทศกาลตรุษจีนจะมีเที่ยวบินเข้ามาวันละ 2 เที่ยวบิน แต่ละเที่ยวบินจะมีผู้โดยสารประมาณ 150 - 160 คน ในจำนวนนี้เราพบผู้เข้าช่ายต้องสงสัยจำนวน 4 ราย เนื่องจากมีอาการไข้ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการคัดแยกผู้ต้องสงสัยและทำการตรวจเลือดตามขั้นตอน และพบว่าผลเลือดของนักท่องเที่ยวทั้ง 4 ไม่ได้มีเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาซึ่งก็ได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวกลับที่พักตามปกติแล้ว” นพ.ธนิศ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่มีสื่อต่างชาติรายงานว่า นายอัช ชอร์ลีย์ ชายหนุ่มอายุ 32 ปี จากเกาะอังกฤษอาจจะกำลังต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และกลายเป็นผู้ป่วยชาวตะวันตกรายแรกที่ต้องเผชิญกับเชื้อไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดนี้ หลังจากที่เขาได้เดินทางท่องเที่ยวที่เกาะพีพี เนื่องจากพบว่าการติดเชื้อที่ปอดของเขามีความล้ายคลึงกับอาการของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งก็ยังไม่ได้รนับการยืนยันจากทางแพทย์ว่าเขาติดเชื้อดังกล่าวจริงหรือไม่
ในเรื่องนี้ นพ.ธนิศ เปิดเผยว่า อาการของนายอัชไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด และเขาเองก็ไม่เคยมีประวัติเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น พื้นที่ซึ่งกำลังมีการระบาดของโรคอยู่ในขณะนี้
“กรณีนี้ทราบว่าผู้ป่วยเดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะพีพีตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนที่เกาะพีพีเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. จากนั้นผู้ป่วยได้ร้องขอและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนของจังหวัดภูเก็ตในวันที่ 2 ม.ค. ก่อนจะขอไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนที่กรุงเทพฯ และเข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.ส่วนอาการของโรคน่าจะเป็นอาการปอดบวม ไม่ใช่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แน่นอน” นพ.ธนิศ กล่าวกับ ข่าวภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้เน้นย้ำว่าในกรณีของผู้ที่มีประวัติเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น แล้วเกิดมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล และเหนื่อยหอบ ภายใน 14 วันหลังกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง ขอให้รีบติดต่อ สสจ.ภูเก็ต ที่เบอร์โทรศัพท์ 076-211330 เป็นการด่วน
