เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านพักอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นบ้านชั้นเดียวมีไม้และสังกะสีเป็นส่วนประกอบจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำสกัด โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบลง แต่ยังคงมีกลุ่มควันจำนวนมาก ต้องฉีดน้ำไล่กลุ่มควันบริเวณพื้นที่อย่างต่อเนื่องไปอีก กระทั่งควันไฟสงบลง เจ้าหน้าที่จึงเริ่มเข้าสำรวจความเสียหาย พบเสียหายเกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุนางนงค์รักษ์ กฤษดี อายุ 46 ปี พร้อมด้วยนายสุทัค คำพา อายุ 49 ปี สองสามีภรรยาซึ่งเป็นเจ้าของบ้านได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อนางนงค์รักษ์เห็นบ้านถูกไฟไหม้ก็ถึงกับร้องไห้เเละเป็นลมล้มพับ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันดูแล
สอบถามนายสุทัค สามีเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับภรรยาออกไปซื้อของที่ตลาด ส่วนลูกๆก็ต่างออกไปทำงาน ทราบว่าไฟไหม้หลังมีเพื่อนบ้านได้โทรศัพท์ไปแจ้งจึงรีบเดินทางมาที่บ้านพบบ้านกำลังถูกไฟไหม้อยู่ โดยทรัพย์สินภายในบ้านมีหลายรายการถูกไฟไหม้เสียหาย ประกอบด้วย โทรทัศน์ เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง ชุดเครื่องเสียง เสื้อผ้า และตู้เสื้อผ้า เตาไมโครเวพ เครื่องปิ้งหมู่ ตู้เย็น เตียงนอน อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ และเงินสดอีกประมาณ 5,000 บาท ซึ่งเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ยังพบ ซากไก่จำนวน 1 ตัว และนกกรงหัวจุกจำนวน 2 ตัว ถูกไฟคลอกนอนตายอยู่ในจุดเกิดเหตุ พร้อมกรงนกมูลค่า 1 หมื่นบาทรวมทั้งหมดมูลค่าหลายแสนบาท
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เจ้าของบ้านพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้นั้นได้บังเอิญพบภาพพระบรมสาทิศลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตกอยู่ในกองขี้เถ้า จำนวน 3 ภาพ โดยพบว่าไม่ถูกเพลิงไหม้ จึงรีบนำออกมาจากจุดเกิดเหตุทันที ซึ่งเจ้าของบ้านถึงกับน้ำตาซึม พร้อมกล่าวว่า “นี่เป็นเพราะพระบารมีของพระองค์ท่าน” ซึ่งจะขอนำไปเก็บไว้ รอจนกว่าจะมีบ้านหลังใหม่ก็จะนำไปใส่กรอบบูชา
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ นายสำราญ จินดาพล นายกเทศมนตรีตำบลฉลอง ได้สั่งการให้นายศุภวัฒกัณฐ์ คุณลักษณ์สมาชิกสภาเทศบาล พร้อมด้วย หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักปลัดเทศบาลตำบลฉลองและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมหาแนวทางให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นตามสมควร
เบื้องต้น นางพงศ์พิชญา พงศ์ภัคธัญธร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบลฉลองได้รับจัดหาที่อยู่อาศัยชั่วคราวให้กับให้ทางครอบครัวผู้ประสบเหตุ โดยให้พักอาศัยอยู่ภายในบ้านพักเลขที่ 33/51 ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 300 เมตร ทำให้ครอบครัวผู้ประสบเหตุต่างรู้สึกดีใจ ขณะเดียวกันก็ได้รวบรวมเงินบางส่วนช่วยเหลือครอบครัวในเบื้องต้นส่วนสาเหตุนั้น เจ้าหน้าที่คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าทำการตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้ง