หลังรับแจ้งจึงประสานแพทย์นิติเวช รพ.วชิระภูเก็ต แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผกก.สภ.กะรน ฝ่ายสืบสวน พฐ. และกู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นอาคารพานิชย์ชั้นล่างเปิดเป็นร้านเสริมความงาม ขายเครื่องสำอาง และสินค้าเสริมความงามนำเข้าจากเกาหลี ส่วนชั้นบนเป็นห้องพัก บริเวณราวบันไดพบศพชาย-หญิง สัญชาติเกาหลี โดยฝ่ายชาย อายุ 52 ปี ส่วนฝ่ายหญิงเป็นภรรยา อายุ 44 ปี เป็นเจ้าของธุรกิจ
คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ตรวจสอบภายในห้องพบเอกสารต่าง ๆ และจดหมายเขียนด้วยลายมือเป็นภาษาเกาหลี และมีหนังสือของทางราชการไทยเกี่ยวกับ การเพิกถอนคำสั่งศาลห้ามเดินทางออกนอกประเทศไทย ระหว่างผู้ตายซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีทำร้ายร่างกาย และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา
จากการสอบสอนทราบว่า ผู้ตายทั้งคู่เช่าอาคารพาณิชย์ทำธุรกิจเสริมความงาม ขายเครื่องสำอาง และนำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมความงามจากสาธารณรัฐเกาหลี กำหนดสัญญาเช่า 2 ปี ค่าเช่าเดือนละ 60,000 บาท โดยเดือนตุลาคม 2567 จะครบ 1 ปี แต่ขณะนี้ค้างค่าเช่าอยู่ 2 เดือน คาดธุรกิจประสบปัญหาขาดทุนทำให้เกิดความเครียด
เบื้องต้นนำศพส่งชันสูตรพร้อมประสานสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย เพื่อติดต่อญาติของทั้งสองคน เพื่อให้รับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาหรือดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักกำลังมีปัญหาหรือตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า โปรดติดต่อ สมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทย สายด่วน 02-113-6789 (อังกฤษและไทย) หรือ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 (ไทย) ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง