สาวควบจยย.ลื่นคราบน้ำมันล้มทางลงเขากะตะ รถบรรทุกน้ำตามหลังทับดับสยอง

ภูเก็ต – เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน เร่งติดตามตัวคนขับรถบรรทุกน้ำ ก่อเหตุขับรถทับศีรษะหญิงสาวเคราะห์ร้ายอายุ 26 ปี เสียชีวิตบนเขากะตะ โดยเธอขับรถจักรยานยนต์มาจากพื้นที่กะตะมุ่งหน้ามาห้าแยกฉลอง แต่ประสบเหตุเสียหลักลื่นล้ม เนื่องจากมีคราบน้ำมันหกเรี่ยราดอยู่บนพื้นผิวถนน ทำให้รถบรรทุกที่ขับตามหลังมาเบรกไม่ทันทับร่างเข้าอย่างจัง

เอกภพ ทองทับ

วันพฤหัสบดี ที่ 21 มีนาคม 2562, เวลา 11:38 น.

ภาพ ศุภวัฒกัณฐ์ อำนวย คุณลักษณ์

ภาพ ศุภวัฒกัณฐ์ อำนวย คุณลักษณ์

ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ประคองเกื้อ รอง สว.(สอบสวน) สภ.กะรน จ.ภูเก็ต รับแจ้งเหตุ 20 มี.ค. 62 เวลาประมาณ 19.00 น. ว่ามีรถจักรยานยนต์เสียหลักลื่นล้มถูกรถบรรทุกทับร่างหญิงสาวเสียชีวิต 1 ราย บนเขากะตะ ถ.ปฏัก ม.2 ต.กะรน หลังรับแจ้งจึง พร้อมด้วย จนท.มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัยรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ทราบชื่อภายหลังคือนางสาวนัถทิชชา อัตตะชีวะอายุ 26 ปี เป็นชาว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ สภาพศพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่กลางถนน

ห่างกันเล็กน้อยพบจยย.ฮอนด้า คลิก สีแดง-ดำ ภูเก็ตล้มคว่ำได้รับความเสียหาย ซึ่งคาดว่าเป็นของผู้ตาย ห่างกันไม่มากนักยังพบรถจยย.ฮอนด้าคลิกสีน้ำเงินภูเก็ต อีกคันหนึ่งล้มคว่ำอยู่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือนาย พชร พลายแสง อายุ 25 ปี และ น.ส.ธนารัตน์ ทิพย์วิมลการ อายุ 24ปี เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งนำส่ง รพ.ฉลอง เป็นการด่วน ส่วนร่างผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกไว้หลักฐาน ก่อนมอบให้ จนท.มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัยนำส่งชันสูตรที่รพ.วชิระภูเก็ต

จากนั้นได้ประสาน งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทต.กะรน นำปูนขาวและทรายมากลบคราบเลือดและคราบน้ำมันที่หกอยู่บนพื้นถนน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนอีก

ร.ต.อ.ชาญณรงค์ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้ขับรถจยย.มาตามเส้นทาง และมีจยย.อีก 1 คันของผู้ได้รับบาดเจ็บได้ขับตามหลังกันมา จากพื้นที่กะตะมุ่งหน้ามาห้าแยกฉลอง เมื่อมาถึงที่ดังกล่าวซึ่งเป็นทางโค้งลงเขา รถของผู้เสียชีวิตเกิดลื่นคราบน้ำมันที่หกเรี่ยราดอยู่จนล้มลงบนถนน จากนั้นรถจยย.คันที่ตามมาก็ล้มซ้ำอีก แต่คนขับและคนซ้อนจยย.คันหลังกระเด็นลงด้านข้างของถนน

เป็นเวลาเดียวกับที่มีรถบรรทุกน้ำวิ่งตามหลังมา เบรกไม่ทันขับทับร่างผู้เสียชีวิตจนเป็นเหตุสุดสยอง จากนั้นได้ขับไปจอดห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร และลงมาสำรวจดูที่ล้อรถ โดยมีพลเมืองดีผู้เห็นเหตุการณ์พยายามเข้าไปใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพ ทำให้คนขับรถบรรทุกน้ำรีบกลับขึ้นรถ และขับหนีไปอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นพบว่ารถบรรทุกน้ำ สีฟ้าขาวเเต่ยังไม่ทราบชื่อบริษัท

ล่าสุดเช้าวันนี้ (21 มี.ค.) ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ยืนยันกับ ข่าวภูเก็ต ว่ายังไม่สามารถจับตัวคนขับรถบรรทุกน้ำคันดังกล่าวได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมหลักฐาน พร้อมกับตรวจสอบกล้อง CCTV ในที่เกิดเหตุและเส้นทางที่คาดว่ารถวิ่งผ่าน เพื่อจับกุมคนขับรายนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมาย

ในส่วนของต้นเหตุที่ทำน้ำมันหกเรี่ยราดในครั้งนี้ ร.ต.อ.ชาญณรงค์ กล่าวว่า เป็นการยากที่จะหาตัวผู้กระทำผิดได้ แต่จะทำการตรวจสอบต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่