โพสต์ดังกล่าวยังได้เล่าในรายละเอียดว่า หลังจากนั้นคนขับรถตู้ได้ใช้อาวุธปืน (ยังไม่ทราบชนิด) ยิงใส่พนักงานร้านเสริมสวย กระสุนโดนที่บริเวณช่วงท้อง แล้วคนขับรถตู้ได้ขับรถหลบหนีไปทันที และล่าสุดทางร้านเสริมสวยเพิ่งจะได้ ภาพวงจรปิดกับป้ายทะเบียนมา และอยู่ในระหว่างการตามหาตัวคนขับรถตู้รายนี้ โพสต์ดังกล่าวระบุ
หลังโพสต์เผยแพร่มีคนเข้ามาวิจารณ์จำนวนมาก เช่น รอครับ รอ เจ้าหน้าที่ !! ผลออกมายังไง รอชมกัน, สงสัยกดแอปไม่ทันเพื่อน เลยมาลงกับคนอื่น, เดี๋ยวก็น่าจะจับได้, เอามันให้หนักไอ้พวกแพ้เสียงแตร เป็นต้น
ล่าสุดวันนี้ (1 มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุได้พบกับ น.ส.พีรกานต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ผู้เสียหาย ที่โดนโชเฟอร์รถตู้ใช้อาวุธไม่ทราบชนิดยิงใส่และโดนบริเวณหน้าท้อง ได้รับบาดเจ็บมีเลือดไหลออกมา ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ค. เวลาประมาณ 15.00 น. ถึง 16.00 น. ตนออกไปซื้อของ รถตู้เบียดตนตนก็เลยบีบแตรไป 1 ครั้งหลังจากนั้นเขาชะลอแล้วก็หันมามองจังหวะที่ตนจะแซงแล้วตนก็หันไปมองเขาเห็นใส่เสื้อสีเหลืองรูปร่างผอม ตนไม่ได้คิดอะไรคิดว่าเขาจะอยากเห็นหน้าตนเฉย ๆ หลังจากตนแซงไปเขาก็ขับตามเรื่อย ๆ แล้วเขาก็ขับจี้เหมือนเดิม ตนยังเข้าใจว่าเขาจะรีบไปทำงาน แต่พอมาถึงหน้าร้านจังหวะที่ตนจะเลี้ยวเขาก็เปิดกระจก
“ไม่รู้เขาปาหรือใช้ปืนหรืออะไรยิงมาใส่ ตอนแรกรู้สึกจุกไม่คิดว่ามีอะไร พอเข้ามาในร้านบอกเจ้านายแล้ว หลังจากนั้นมาดูที่เสื้อมีเลือดออกแผลไม่ได้ใหญ่มากแต่มีเลือดออก แต่ไม่รู้สาเหตุอะไร แต่อีกวันหนึ่งคือช้ำเวลาก้มเวลาทำอะไรก็ไม่สะดวก ตอนนี้ยังเจ็บอยู่ และไปแจ้งความแล้วเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็รู้สึกตกใจมาก ไม่เคยรู้จักกับคนขับรถไม่เคยเห็นหน้า และไม่เคยมีเรื่องมาก่อน เพิ่งเจอเหตุการณ์บนถนนแค่บีบแตร 1 ทีแค่นั้น อยากให้เขาออกมารับผิด เขาเป็นผู้ชายเขาไม่สมควรจะมาทำแบบนี้” เธอเล่า
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามทางโทรศัพท์ ไปยังเจ้าของรถตู้คันดังกล่าวเผยว่า รถตู้คันดังกล่าว ผู้ก่อเหตุเป็นคนขับ หลังเกิดเหตุเจ้าของรถตู้ได้พาคนขับรถคันดังกล่าวไปยัง สภ.ป่าตอง เพื่อมอบตัวพร้อมนำหลักฐานที่ใช้ยิงเป็นหนังสติกร์กับลูกแก้วไปด้วย แต่ทางตำรวจแจ้งว่า ผู้เสียหายยังไม่ได้มาที่ สภ. อาจจะยังไม่ทราบว่าตามตัวคนขับรถตู้ได้แล้ว
สอบถามเจ้าของรถตู้เพิ่มเติมเล่าว่า ในวันเกิดเหตุดังกล่าว คนก่อเหตุได้ขับรถไปหาอดีตภรรยา เพื่อจะให้พาลูกไปตรวจดีเอ็นเอ แต่ทางอดีตภรรยาและญาติของอดีตภรรยาไม่ยอมให้ตรวจ หลังจากนั้นขับรถออกมาแล้วมาเจอผู้เสียหาย คนที่โดนยิงพอดี เลยคิดว่าเป็นญาติของภรรยาเลยไม่พอใจจึงใช้หนังสติ๊กยิงไป 1 ครั้ง แล้วขับหลบหนีไป