เธอเปิดเผยว่า ก่อนหน้านั้นผู้ชายคนหนึ่งซึ่งตนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ได้ทักแชทเข้ามาว่าอยากมีอะไรด้วยแต่เธอได้ปฏิเสธไป จากนั้นชายคนดังกล่าวยังต่อว่าอีก และบอกมาว่าเห็นรูปโปรไฟล์เขาแล้วไม่อยากมีอะไรด้วยเหรอ เธอก็ปฏิเสธอีกครั้งและบล็อคเฟซบุ๊กชายคนดังกล่าวไป แต่ชายคนดังกล่าวไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น พยายามค้นหาเฟซบุ๊กสำรองของเธออีก และแชทเข้ามาหาแต่เธอยังไม่ได้ตอบอะไร
“ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะกำลังนั่งทานข้าวกับแม่ จู่ ๆ มีเพื่อนโทรมาบอกให้ทราบว่า มีคนนำรูปไปโพสต์ เกี่ยวกับการขายบริการและมีคนติดโควิด แต่มีการแชร์กันต่อ ๆ เยอะมาก ซึ่งทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงในโพสต์เขียนว่าเป็นคนขายบริการซึ่งถ้าผู้ชายคนใดไปใช้บริการที่ซอย 11 ไปใช้บริการกับผู้หญิงคนนี้ให้ไปตรวจเชื้อโควิดทันที เพราะผู้หญิงคนนี้ติดโควิด-19 แล้วและยังอ้างอีกว่าได้รับสารภาพกับหมอเรียบร้อยแล้ว ว่ารับแขกประมาณ 20 คน ภายใน 3 วัน”
วันนี้เธอจึงได้นำเอกสารทั้งหมดมาร้องต่อสื่อ เพื่อให้สื่อได้ช่วยเลือ เพราะเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมาเธอได้ไปลงประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองภูเก็ต
“แต่เพราะตอนนั้นเรายังหาตัวคนโพสต์ไม่ได้ จึงทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น วันต่อมาจึงได้นำเอกสารไปแจ้งความที่ สภ.เมืองภูเก็ตอีกครั้งหนึ่ง แต่เจ้าที่ตำรวจแนะนำให้ไปแจ้งความกับร้อยเวรคนเดิม ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว แต่เมื่อไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนเดิม กลับถูกปฏิเสธว่าตอนนี้ไม่ว่าง กำลังจัดเอกสารอยู่ ถ้าว่างเมื่อไรจะโทรไปแจ้ง”
เธอเล่าว่าเธอรอโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจมากว่า 1 วันเต็ม ๆ แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่โทรมา เธอจึงต้องเข้าพบสื่อเพื่อขอความเป็นธรรม เพราะโพสต์ดังกล่าวทำให้เธอและครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งครอบครัวทำการค้าขายและเรื่องนี้ทำให้เธอคนในครอบครัวอับอาย ไม่สามารถสู้หน้าชาวบ้านในชุมชนได้อีกต่อไป
