หนุ่มนักดำน้ำช้ำใจโพสต์ภาพฉลามหายาก ถูกเรือประมงจับส่งแพปลาภูเก็ต

ภูเก็ต - ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Saranu Pinjaroen ซึ่งเป็นนักดำน้ำ ได้มีการโพสต์ภาพฉลามไม่ทราบชนิดจำนวนนับสิบตัวที่กองเรียงรายอยู่บนพื้น พร้อมระบุข้อความว่า “Very sad. พอได้เห็นก็รู้สึกเศร้า” พร้อม ตัดพ้อ “ดำน้ำแทบตายไม่เจอมาเจอในแพปลา”

เอกภพ ทองทับ

วันพฤหัสบดี ที่ 17 สิงหาคม 2560, เวลา 09:28 น.

โดยหลังมีการโพสต์ภาพดังกล่าวได้มีผู้เข้ามาสอบถามแสดงความเห็นเป็นจำนวนมากโดยส่วนใหญ่แสดงความกังวลว่าฉลามหายากจะหมดไปจากทะเลไทยขณะที่บางส่วนระบุว่าฉลามเหล่านี้ถูกจับขึ้นมาเพราะเงินค่าตอบแทนที่สูง

ทั้งนี้ผู้โพสต์ยังระบุเพิ่มเติมว่าภาพดังกล่าวได้ถ่ายไว้ที่แพปลาแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับท่าเรือเจียรวานิช  .รัษฏา พร้อมระบุว่าเศร้าเลยดำน้ำแทบตายไม่เจอมาเจอในแพปลา

สำหรับฉลามในภาพที่ปรากฏนั้นเมื่อสังเกตอย่างละเอียดพบว่ามีลักษณะคล้ายกับฉลามเสือ(Tiger shark) ซึ่งเป็นฉลามที่พบไม่มากในประเทศไทยและอีกชนิดเป็นฉลามหูดำหรือฉลามครีบดำ (Blacktip Reef Shark) ซึ่งพบได้บ่อยในแนวปะการังของทะเลอ่าวไทยและอันดามันแต่ก็มีจำนวนน้อยลง 

ทั้งนี้ฉลามเสือมีลักษณรูปร่างอ้วนป้อมปากกว้างปลายปากสั้นและทู่ลำตัวเรียวไปทางปลายหางคอดหางมีสันชัดเจน ครีบหางเรียวและมีปลายแหลมมีฟันใหญ่เป็นรูปสามเหลี่ยม มีขอบหยักเป็นจักคล้ายฟันเลื่อยพื้นลำตัวและครีบสีน้ำตาลหม่นมีลายพาดขวางตลอดข้างหลัง และหางคล้ายลายของเสือโคร่งจึงเป็นที่มาของชื่อเรียกซึ่งลายนี้อาจแตกเป็นจุดกระจายอยู่ทั่วไปหรือจางหมดไปเมื่อโตขึ้นท้องมีสีจาง

ปลาฉลามเสือเมื่อโตเต็มที่มีขนาดประมาณ 5 เมตรแต่ตัวที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบคือ 7 เมตรน้ำหนักหนักที่สุดคือ 807.4 กิโลกรัมพบกระจายว่ายหากินอยู่ทั่วไปในน่านน้ำเขตอบอุ่นทั่วโลกมีพฤติกรรมชอบหากินตามแนวปะการังหรือบริเวณใกล้ชายฝั่งหรือบริเวณปากแม่น้ำโดยอาศัยตั้งแต่ระดับผิวน้ำจนถึงความลึก 140 เมตรปกติมักอยู่ลำพังเพียงตัวเดียวและหากินในเวลากลางคืนว่ายน้ำได้คล่องแคล่วว่องไวมากมีอาณาเขตในการหากินกว้าง 100 ตารางกิโลเมตรโดยที่อาหารได้แก่ปลาและสัตว์น้ำชนิดต่างๆเช่นเต่าทะเลรวมทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมในทะเลเช่นแมวน้ำหรือสิงโตทะเลด้วยปลาฉลามเสือได้ชื่อว่าเป็นปลาที่กินไม่เลือกเหมือนเช่นปลาฉลามขาว (Carcharodon carcharias) เพราะมักเจอสิ่งที่ไม่ใช่อาหารในกระเพาะเสมอๆเช่นยางรถยนต์, กระป๋องน้ำ, เศษไม้หรือพลาสติกซึ่งล้วนแต่เป็นขยะที่มนุษย์โยนทิ้งลงทะเลทั้งสิ้น

ฉลามเสือนับได้ว่าเป็นปลาฉลามอีกชนิดหนึ่งที่มีอันตรายต่อมนุษย์เพราะมีนิสัยดุร้ายและมีพฤติกรรมการกินที่ไม่เลือกในพื้นที่ทะเลของไทยนับได้ว่าเป็นปลาฉลามที่อาจทำร้ายมนุษย์หรือนักดำน้ำได้ร่วมกับปลาฉลามหัวบาตร (Carcharhinus leucas) และปลาฉลามครีบดำ (C. melanopterus) โดยสถานที่ที่มีรายงานปลาฉลามเสือทำร้ายนักดำน้ำหรือนักโต้คลื่นมากที่สุดคือฮาวายเชื่อว่าเกิดจากเหตุที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว จึงทำให้ปลาฉลามเสือเห็นกระดานโต้คลื่นผิดไปเป็นแมวน้ำซึ่งเป็นอาหาร กอรปกับการที่มีเต่าทะเลซึ่งเป็นอาหารอีกอย่างหนึ่งกระจายพันธุ์สูงด้วย

อย่างไรก็ตามสำหรับในปัจจุบันยังไม่มีกฏหมายคุ้มครองฉลามที่ชัดเจน มีเพียงฉลามวาฬเพียงชนิดเดียวที่มีชื่ออยู่ในบัญชีแนบท้ายกฎกระทรวงกำหนดให้เป็นสัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองพ.. 2546 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ..2535 ประกอบด้วยสัตว์ป่าจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 201 ชนิดนก 952 ชนิดสัตว์เลื้อยคลาน 91 ชนิดสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 12 ชนิดแมลง 20 ชนิดปลา 14 ชนิดและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่นๆ 12 ชนิด

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่