จากกรณี เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ในเวลาประมาณ 04.40 น. เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ (แฟมิลี่มาร์ท) ภายในปั๊มน้ำมันเชลล์ ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ต.วิชิต อ.เมือง จว.ภูเก็ต จากนั้นในเวลาประมาณ 05.40 น. ได้มีคนร้ายใช้อาวุธมีดจี้บังคับพนักงานภายในร้านสะดวกซื้อ (แฟมิลี่มาร์ท) สาขาดิลกอุทิศ 2 เลขที่ 119 ถ.ดิลกอุทิศ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จว.ภูเก็ต ซึ่งพนักงานในร้านสาขาดิลกอุทิศ 2 เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนและเพื่อนได้ทำงานอยู่ในร้านตามปกติ จากนั้นได้มีชาย 1 คน อายุประมาณ 25-30 ปีสูงประมาณ 165 ซม. สวมเสื้อกีฬาสีชมพูสลับสีน้ำเงิน สวมกางเกงขาสั้นเล่นกีฬาสีดำ สวมหมวกแก๊ป สวมรองเท้าแตะ ขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณหน้าร้าน เดินทำทีเหมือนลูกค้าทั่วไป จากนั้นเดินเข้าไปที่บริเวณขายอุปกรณ์เครื่องครัว แล้วคว้ามีดปลายแหลมทำครัวมา 1 เล่ม ก่อนจะเดินไปที่เค้าเตอร์ และใช้อาวุธมีดจี้บังคับพนักงานร้านให้เอาเงินออกมา จากนั้นคนร้ายก็ออกจากร้าน ขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว (อ่านเพิ่มเติม คลิก) ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า คนร้ายได้เงินไป 1,250 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต จึงได้ออกสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ
ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 2 ครั้ง เป็นคนร้ายคนเดียวกัน ซึ่งในระหว่างการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านเสื้อ ที่ได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นคนเดียวกับคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ โดยระบุว่าเป็นเสื้อตัวเดียวกับที่คนร้ายซื้อไปจากร้านในพื้นที่เขาหลักเมื่อวันที่ 9 พ.ย. ในราคา 400 บาท และได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอพนักงานสอบสวน ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดภูเก็ต
ต่อมาในเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันเดียวกัน สภ.เมืองภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต, พ.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ รัตนภักดี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย ร.ต.อ.อนิรุทธิ์ ทองผึ้ง รอง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต จึงได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา คือ นายบุญฤทธิ์ ขาวประดิษฐ อายุ 21 ปี ที่อยู่ 35/5 ม.1 ต.รมณีย์ อ.กะปง จว.พังงา ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 10 พ.ย. 62 ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
ร.ต.อ.อนิรุทธิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการกดดันอย่างหนัก ทำให้คนร้ายทนแรงกดดันไม่ไหวจึงขอเข้ามอบตัวที่ สภ.ถลาง ก่อนจะรับตัวคนร้ายได้ที่บริเวณหน้า สภ.เมืองภูเก็ต ถนนชุมพร ต.ตลาดใหญ่ และทำการตรวจยึด รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน กนม 573 พังงา, เสื้อกีฬาฟุตบอล สีชมพู น้ำเงิน สกรีนด้านหลัง หมายเลข 7 จำนวน 1 ตัว, กางเกงกีฬา ขาสั้น สีดำ จำนวน 1 ตัว และหมวกแก๊ปสีน้ำตาล 1 ใบ ซึ่งผู้ต้องหายังคงสวมใส่ของกลางลำดับที่ 2-4 อยู่กับตัว พร้อมทั้งสมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตรวจยึดตรวจยึดรถจยย. ที่ลานจอดรถ อัน มิว เรสซิเด้นท์ ถ.เจ้าฟ้า ต.ตลาดเหนือ ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
วันนี้ (11 พ.ย.) พ.ต.อ.สมพงศ์ เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต ว่า จากการสอบสวนคนร้ายให้การว่ากำลังตกงาน และต้องการเงินมาใช้จ่าย ตรวจสอบไม่พบว่ามีประวัติอาชญากรรม
“นายบุญฤทธิ์ให้การว่าเหตุที่ทำลงไปเพราะตกงาน ต้องการเงินไปใช้จ่าย ก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานในโรงงานเฟอร์นิเจอร์ แต่ตอนนี้ได้ปิดตัวลงไปแล้ว ทำให้ตกงานและไม่มีรายได้ จึงตัดสินใจก่อเหตุ และจากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหายังไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน”
ทั้งนี้ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ได้ฝากไปถึงร้านสะดวกซื้อหรือร้านค้าต่าง ๆ ว่า ขอให้ติดตั้งกล้อง CCTV ที่สามารถจับภาพบริเวณหน้าร้านได้ด้วย เพื่อเป็นการป้องกันการก่อเหตุ และในกรณีที่มีเหตุก็จะสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในการติดตามหาคนร้ายได้เป็นอย่างดี
“อยากฝากไปถึงร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ ให้ติดตั้งกล้องภายนอกตัวร้านด้วย ไม่ใช่ติดตั้งภายในร้านเท่านั้น ซึ่งทางเตำรวจเองได้เคยแจ้งไปกับผู้ประกอบการแล้ว ว่ากาติดตั้งกล้องหน้าร้านจะสามารถช่วยป้องกันการก่อเหตุ และเพิ่มความสะดวกในการสืบสวนติดตามคนร้ายในกรณีเกิดเหตุ” พ.ต.อ.สมพงศ์ กล่าว
