หนุ่มยูทูบอัดคลิปเล่นท้าความตาย โชว์ใช้หนังสือเป็นเกราะบังกระสุน เกิดพลาดเสียชีวิต

สหรัฐอเมริกา - ยูทูบเบอร์ว้อนท์ยอดวิว สาวมะกันยิงปืนเข้าหน้าอกสามีเสียชีวิตคาที่ ขณะร่วมกันทำคลิปใช้หนังสือเป็นโล่บังกระสุน ป้าผู้ตายมั่นใจเป็นแค่อุบัติเหตุจากความประมาท ไม่มีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง

โพสต์ทูเดย์

วันเสาร์ ที่ 1 กรกฎาคม 2560, เวลา 16:09 น.

สถานีตำรวจเมืองนอร์แมน รัฐมินนิโซตาของสหรัฐ รับแจ้งผ่านสายด่วนฉุกเฉินว่า หญิงรายหนึ่งยิงสามีเข้าที่หน้าอกขณะถ่ายทำคลิปวิดีโอ จากการตรวจสอบ ผู้โทรแจ้งคือ โมนาลิซา เปเรซ หญิงสาววัย 19 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุยิง เปโดร รูอิส สามีวัย 22 ปี

เปเรซให้การว่า รูอิสต้องการทำคลิปวิดีโอให้เธอยิงปืนใส่หนังสือ ใส่บัญชีผู้ใช้งานของเปเรซ ในเว็บไซต์แบ่งปันวิดีโอ ยูทูบ ซึ่งเปิดใช้งานมาตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และพูดคุยปรึกษากันมาสักระยะแล้ว ผู้ต้องหาเล่าว่า ผู้ตายสาธิตท่าทางการถือหนังสือให้ดู และโน้มน้าวในเวลานั้นว่า กระสุนไม่สามารถทะลุผ่านหนังสือได้ โดยยังโชว์ให้เธอดูหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่เขาอ้างว่ายิงปืนใส่แล้วกระสุนไม่ทะลุผ่านให้ดูอีกด้วย

ในวันที่เกิดเหตุ ฝ่ายชายตั้งกล้องไว้ 2 มุม เพื่อบันทึกภาพมาตัดต่อเป็นคลิปได้ในแบบที่ตั้งใจไว้ และให้ผู้ยิงยืนอยู่ห่างจากเป้าหมายเพียง 1 ฟุต ยิงไปข้างหน้าด้วยปืนพกเดสเสิร์ท อีเกิล .50 คาลิเบอร์ โดยหวังใจว่าคลิปการท้าความตายด้วยหนังสือจะกลายเป็นไวรัลทั่วโลกอินเทอร์เน็ต

ทว่า ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปอย่างที่ทั้งสองคิดแม้แต่นิดเดียว กระสุนทะลุผ่านหนังสือเข้าไปที่หน้าอกของรูอิส ซึ่งทีมแพทย์ตรวจสอบที่เกิดเหตุเผยว่า เขาเสียชีวิตจากกระสุนนัดนั้นนั่นเอง

ซึ่งฝ่ายกฎหมายตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า แต่มีเจตนาเล็งเห็นผลกับยูทูบเบอร์สาว โดยมีคลิปที่ตั้งใจไว้สร้างชื่อเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ซึ่งไม่ได้โพสต์ลงยูทูบแล้ว หากการพิจารณาคดีในวันที่ 5 ก.ค.นี้ มีความเห็นว่าเธอมีความผิดจริง อาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี และปรับถึง 20,000 เหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ดี คลอเดีย ป้าของรูอิสเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง และกำลังตั้งครรภ์บุตร 7 เดือน กับผู้ตายด้วย ไม่มีความตั้งใจสังหารคนรัก เพราะทราบความเป็นไปของทั้งคู่ว่ารักกันมาก ที่ทำไปเพราะอยากเรียกคนเข้ามาชมคลิปเพิ่ม แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงคิดว่าหนังสือซึ่งเป็นเพียงกระดาษปึกหนึ่งจะกันกระสุนได้

ที่มา www.m2fnews.com

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่