จากกรณีเมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 ก.พ. 64 ร.ต.ท.วิโรจน์ พรประพฤติ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ว่าพบศพผู้เสียชีวิตภายในท่อ เส้นทางหลังมัสยิดบ้านบางชีเหล้า ม.2 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ภายหลังทราบชื่อผู้ตายคือ นายธีรพงศ์ แก้วมูลมุก อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/33 หมู่ 2 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ได้หายออกจากบ้านเมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากได้ฉลอง ตรุษจีนกับเพื่อนอีก 2 คน
ล่าสุดวันนี้ (14 ก.พ.) เวลา 10.00 น.เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่เผยว่า จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าท่อที่ศพไปติดอยู่นั้นมีความยาวประมาณ 10 เมตร และกว้าง 65 เซนติเมตร โดยเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้สอบถามพยาน ที่เป็นคนพบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายคนแรกคือ นายสมาน หรือบังมุด คนตรง อายุ 43 ปี ได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังพร้อมทั้งชี้ที่เกิดเหตุว่า เมื่อเวลา 22.30 น. ของคืนวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนมีอาชีพหาปูหาปลาได้นำเรือมาจอดบริเวณใกล้กับจุดเกิดเหตุและเดินมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุมาพบกับผู้ตายยืนคุยกับ นายประสิทธิ์ หรือบังบลู เป็นสุข อายุ 50 ปีอยู่ก่อนหน้าที่ตนจะมาถึงแล้ว โดยตนกับผู้ตายได้ยืนดื่มเหล้ากันโดยรินเทใส่ฝาแล้วก็ผลัดกันดื่ม อยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็แยกย้ายกันกลับบ้าน บังมุดกล่าว
ด้านบังบลู เพื่อนสนิทของผู้ตายอีกราย เปิดเผยว่า หลังจากตน บังมุด และผู้ตายยืนคุยกันได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ตนก็ขอตัวเดินทางกลับบ้านก่อน โดยนัดหมายกับผู้ตายว่าให้ไปเจอกันที่บ้านของตนเพื่อดื่มกันต่อ แต่ตนได้นั่งรอผู้ตายอยู่ที่บ้านจนถึงเวลาใกล้เที่ยงคืน ตนคิดว่าผู้ตายคงไปดื่มเหล้ากับบังมุดแล้ว ตนจึงอาบน้ำ กินข้าว และเข้านอน รุ่งเช้ามีคนมาบอกว่าพบรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย จอดทิ้งไว้อยู่กลางถนนใกล้กับบริเวณที่เจอศพผู้ตาย ตนจึงไปถามบังมุดว่า เมื่อคืนได้ไปดื่มเหล้ากันต่อกับผู้ตายหรือไม่ บังมุดตอบว่าไม่ได้ไปดื่มต่อ เห็นผู้ตายขับรถจักรยายยนต์ตามหลังตนออกมาตอนที่แยกกันเมื่อคืนนี้แล้ว คิดว่าไปดื่มเหล้าต่อที่บ้านบังบลูเหมือนกัน ตนจึงออกตามหาผู้ตายพร้อมกับนายสุรัช แสงนาค ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 และอาสาสมัครรวมกว่า 30 คน ออกค้นหาผู้ตายทันที
นายพิชัย แก้วมูลมุก พ่อของผู้ตาย เปิดเผยว่า ปกติลูกชายของตนเป็นคนเงียบ ๆ ชอบแต่เรื่องสนุกสนานร้องเพลงคุยสนุกกับเพื่อน ๆ และชอบสังสรรค์เฮฮากับหมู่เพื่อนฝูงในชุมชน ลูกชายไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกับใคร การตายของลูกชายในครั้งนี้ ตนสงสัยและเคลือบแคลงอยู่ในใจ ส่วนที่ทำไมลูกชายถึงมีบาดแผลบริเวณศีรษะซึ่งเป็นบาดแผลใหญ่มาก ไม่เหมือนบาดแผลของคนที่ขับรถจักรยานยนต์ล้ม แต่ก็ยังต้องรอผลการพิสูจน์จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าลูกของตนนั้นตายด้วยสาเหตุใดกันแน่
