จากกรณี เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา นางแอนนา มคิทาเรียน สัญชาติรัสเซีย มาพบ ว่าที่ พ.ต.ต.วราวุฒิ เส็นโสบ สว.(สอบสวน) สภ.ฉลอง พนักงานสอบสวน แจ้งว่าสามี นายอาร์เธอร์ มคิทาเรียน สัญชาติรัสเซีย ได้สูญหายจากบ้านพักเป็นเวลา 1 คืน ต่อมานางแอนนาได้ติดตามจนพบรถยนต์เช่าของนายอาร์เธอร์ และพบว่านายอาร์เธอร์นอนอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุเชื่อว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว พนักงานสอบสวนจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ประสานงานแพทย์และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจที่เกิดเหตุพบศพนายอาร์เธอร์นอนเสียชีวิตอยู่ในแปลงฟาร์มกัญชาใต้ถุนบ้านที่เกิดเหตุ สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อยืด คอกลมสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ มีร่องรอยถูกของมีคมบริเวณคอ และตามร่างกายมีร่องรอยถูกทำร้าย เชื่อว่าผู้เสียชีวิตถูกคนทำร้ายจนเสียชีวิต แพทย์สันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิตมาไม่เกิน 20 ชั่วโมง
จากการสืบสวนสอบสวนพยานและวัตถุพยานที่เกิดเหตุ รวมทั้งข้อมูลกล้องวงจรปิด ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ มีนายบัคโตวาร์ มูโรโซดา (Mr.Bakhtovar Murozoda) สัญชาติทาจิกิสถานพักอาศัยอยู่เพียงคนเดียวในบ้านที่เกิดเหตุ และนายอาร์เธอร์ได้เข้ามาที่บ้านที่เกิดเหตุ และนายบัคโตวาร์ได้ออกจากบ้านที่เกิดเหตุเพียงลำพัง โดยนายอาร์เธอร์ไม่ได้กลับออกมาด้วย และต่อมาพบว่านายอาร์เธอร์เสียชีวิตแล้ว
จากการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่านายบัคโตวาร์ได้ออกจากบ้านที่เกิดเหตุ แล้วเดินทางไปขึ้นเครื่องที่สนามบินภูเก็ต เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 67 เวลา 21.38 น. ปลายทางอิสตันบูล ประเทศตุรกี จึงเชื่อแน่ว่านายบัคโตวาร์เป็นผู้ที่ลงมือทำร้ายนายอาร์เธอร์จนเสียชีวิต
หลังจากการกระทำผิดจึงได้หลบหนีไป พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดภูเก็ต โดยศาลได้อนุมัติหมายจับ ที่ จ.152/2567 ลง 14 มี.ค. 67 ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และจะประสานอินเตอร์โพลเพื่อจะจับกุมผู้ต้องหาต่อไป
