ซึ่งประกาศในครั้งนี้ถูกแถลงออกมาเพียง 1 วันก่อนหน้าที่ประเทศนิวซีแลนด์ เตรียมพร้อมจะให้การต้อนรับแฟน ๆ ที่พร้อมใจกันเข้าร่วมชมการแข่งขัน Super Rugby Aotearoa ทัวร์นาเม้นต์ หรือลีกรักบี้ภายในประเทศของนิวซีแลนด์ ซึ่งได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา
นายมอร์ริสันระบุว่า การเปิดให้แฟนกีฬาเข้าชมภายในสนาม จะอนุญาตให้เฉพาะสนามที่สามารถรองรับผู้ชมได้ 40,000 คนหรือต่ำกว่าเท่านั้น ซึ่งอาจจะไม่สอดคล้องกับสนามกีฬาขนาดใหญ่และสามารถจุคนได้มากกว่าอย่างสนาม Melbourne Cricket Ground และ Adelaide Oval
“พวกเรากำลังดำเนินการในมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 3 สำหรับสนามกีฬาหรือสถานที่ต่าง ๆ ที่มีผู้คนมาพบปะหรือชุมนุมกัน ซึ่งมีความจุไม่เกิน 4 หมื่นที่นั่ง หรือน้อยกว่าในการเข้าร่วมกิจกรรม” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว
ผู้เข้าชมทุกคนจะต้องได้รับการออกบัตรที่นั่งภายใต้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมที่กำหนดไว้ และจำนวนผู้เข้าชมจะถูกจำกัดอยู่ที่ 25 เปอร์เซ็นต์ของความจุภายในสถานที่จัดกิจกรรม
ในช่วงเวลานี้สนามกีฬาขนาดใหญ่กว่าที่กำหนดอาจจะยังไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการยากในการจัดการจำนวนผู้เข้าชมให้สอดคล้องกับมาตรการรักษาระยะห่างระหว่างผู้ชมในสนาม ซึ่งหมายรวมถึงการเดินทางด้วยบริการรถขนส่งสาธารณะเพื่อเข้าสู่สนามการแข่งขัน รวมไปถึงการออกจากสนามภายหลังจากจบการแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม สนามกีฬาจะเปิดประตูต้อนรับเหล่าบรรดาแฟนกีฬา ให้ได้มีโอกาสเชียร์ทีมของพวกเขาในสนามกีฬาระดับกลางซึ่งหมายรวมถึงสนาม Canberra Stadium และ AAMI Park ในเมลเบิร์น ซึ่งทั้งคู่เป็นเจ้าภาพจัดงาน Super Rugby ที่จะเริ่มการแข่งขันในวันที่ 3 กรกฎาคมเป็นต้นไป
เหล่าบรรดาผู้ชมถูกสั่งห้ามเข้าชมการแข่งขันกีฬาของออสเตรเลีย ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมเป็นต้นมา เนื่องจากการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ จำเป็นต้องถูกเลื่อนออกไปหรืองดจัดการแข่งขัน เพื่อเป็นการสะกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
แต่ด้วยสถานการณ์ล่าสุดของเชื้อโรคโควิด-19 ที่สามารถควบคุมได้แล้วในขณะนี้ภายใต้กฎการ Down Under, ลีกรักบี้และมาตรการต่าง ๆ ของออสเตรเลียทำให้สามารถกลับมาดำเนินการต่อได้ แผ่นป้ายกระดาษแข็งถูกวางไว้บนที่นั่ง เพื่อให้จำนวนพื้นที่ว่างเปล่าในสนามดูลดน้อยลง รวมไปถึงเสียงเชียร์กึกก้องในสนามที่จะมีการเปิดออกอากาศควบคู่กันไปในระหว่างการแข่งขันอีกด้วย