อากาศแห้งแล้ง นายกเล็กเตือนระวังฟืนไฟ

ภูเก็ต – นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ฝากถึงประชาชนให้ระมัดระวังสถานการณ์เพลิงไหม้ช่วงหน้าแล้ง หลังเกิดเหตุไฟไหม้ป่าพลุแห้งลุกลามกินเนื้อที่หลายสิบไร่ ในพื้นที่ตำบลศรีสุนทร ซึ่งเป็นรอยต่อพื้นที่เชิงทะเลเมื่อช่วงบ่ายวานนี้

ข่าวภูเก็ต

วันเสาร์ ที่ 21 มีนาคม 2563, เวลา 13:30 น.

วันนี้ (21มี.ค.) นายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล กล่าวกับ ข่าวภูเก็ต เพื่อฝากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังเหตุเพลิงไหม้ในช่วงฤดูแล้งว่า จากกรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (20 มี.ค.) งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลศรีสุนทร ได้รับแจ้งรับเเจ้งเหตุไฟไห้มแนวป่าหลังบริษัทฮอนด้ามารีน หมู่ที่ 3 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จากนั้นนายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร มอบหมายให้เจ้าหน้าที่งานป้องกันฯ เข้าระงับเหตุอย่างเร่งด่วน

สำหรับกรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่งานป้องกันฯ ทต.ศรีสุนทร เปิดเผยกับ The Phuket News ว่าได้รับแจ้งในเวลาประมาณ 13.00 น. จากนั้นจึงเร่งไปเพื่อระงับเหตุโดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที พบว่าบริเวณที่เกิดเหตุเป็นป่าพลุแห้งมีเพลิงไหม้อยู่แล้วเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งทีมดับเพลิงระดมกำลังรถน้ำดับเพลิงกว่า 8 คัน จากงานป้องกันฯ อบต.เทพกระษัตรี ทต.เทพกระษัตรี และทต.เชิงทะเล จนกระทั่งเสร็จสิ้นภารกิจในเวลาประมาณ 19.00 น. ซึ่งจากการประมาณการคาดว่าเพลิงไหม้เผาวอดบริเวณดังกล่าวไปกว่า 30-40 ไร่

ทั้งนี้ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันเกิดเหตุไฟไหม้บริเวณบ้านยาหมู 6 ต.ป่าคลอก งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุ และต้องขอกำลังเสริมจากงานป้องกันฯ ท้องถิ่นใกล้เคียงเพื่อเข้าระงับเหตุเช่นกัน

นายก อบต.เชิงทะเล กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ได้ อย่างไรก็ตาม อยากขอฝากถึงพี่น้องประชาชนให้ช่วยกันป้องกัน ในส่วนของเจ้าของที่ดินหรือผู้ดูแลที่ดินขอความร่วมมือไม่เผาหญ้าหรือขยะ เนื่องจากช่วงนี้อากาศแห้งแล้ง อาจทำให้ไฟลุกลามจนก่อเกิดความเสียหายได้

นอกจากนี้อยากฝากถึงประชาชนทั่วไปให้และป้องกันความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้ ทั้งภายในบ้านและนอกตัวบ้านในช่วงฤดูแล้งนี้ โดยเฉพาะก้นบุหรี่ขอให้ดับให้เรียบร้อยและทิ้งให้เป็นที่เป็นทาง หากพบเห็นเหตุเพลิงไหม้ขอให้แจ้งท้องถิ่นให้ทราบ หรือแจ้งศูนย์รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้และสาธารณภัยได้ที่สายด่วน 199 หรือ 191 เพื่อที่ทางเจ้าหน้าที่จะได้ประสานให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไประงับเหตุได้อย่างทันท่วงที

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่