โดยหลังจากที่ได้สั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่น หลังจากได้อาหารเธอได้มีการรีวิว ซึ่งครั้งแรกผ่านไปได้ด้วยดี และได้มีการสั่งรอบสองได้มีการติติงเล็กน้อย แต่ปรากฏว่าทำให้เจ้าของร้านไม่พอใจ ทักมาขอเบอร์ติดต่อ หนักสุดบุกมาถึงบ้าน โดยเธอได้โพสต์เรื่องราวดังกล่าวผ่าน “กลุ่มพวกเราคือผู้บริโภค” ว่า เตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ในการรีวิว
ล่าสุดวันนี้ (1 ส.ค.) เจ้าของร้านโกแก้ว ข้าวแกงเมืองคอน 2 ได้แถลงขอความเป็นธรรม ต่อสื่อมวลชน น.ส.ธนาวดี คล้ายคง อายุ 40 ปี เจ้าของร้านกล่าวว่า จากกรณีที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ จากที่มีลูกค้าได้สั่งกับข้าวผ่านแอปหลังจากนั้นลูกค้าก็รีวิวมาว่าได้ของน้อยอยู่หลายรอบ ทางร้านจึงส่งข้อความหาลูกค้าให้ช่วยติดต่อทางร้าน เพื่อจะอธิบายให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทางลูกค้าไม่ติดต่อกลับอะไรเลย หลังจากนั้นทางร้านได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 22 ก.ค. เพื่อขอใช้พื้นที่ในการชี้แจง
ต่อมาในวันที่ 30 ก.ค. ลูกค้าคนเดิมสั่งมาอีกรอบ ลูกน้องในร้านเห็นออเดอร์และโทรจึงส่งเบอร์ให้กับเจ้าของร้าน เจ้าของร้านจึงเลยโทรหาประมาณ 5-6 สายแต่ไม่รับสาย หลังจากปิดร้านทางเจ้าของร้านกับลูกน้องจึงได้เดินทางไปหาลูกค้าในตอนเย็น ตามที่อยู่ของลูกค้า ในที่สุดก็ไปจอดที่บ้านหลังหนึ่ง จึงถามว่าบ้านหลังนี้ใช่บ้านของลูกค้ารายดังกล่าวหรือไม่ พร้อมทั้งแนะนำตัวว่ากลุ่มของตน (ตนและลูกน้อง 2 คน ส่วนแฟนนั่งรอภายในรถ) มาจากร้านข้าวโกแก้วฯ โดยมิได้มีการข่มขู่แต่อย่างใด และอธิบายว่าหากได้กับข้าวน้อยขอให้โทรเบอร์ที่ร้านได้เลย และทางร้านสามารถเปลี่ยนอาหารให้ได้หากสินค้ามีปริมาณน้อยจริง ๆ
“หลังจากนั้นแยกย้ายกันกลับบ้าน พอเที่ยงคืนอีกวันก็ไปขายหมู พบว่ามีคอมเม้นทัวร์ลงในเฟซเยอะมาก ทั้งเฟซร้านและเฟซของตัวเอง มีคนทักมาหาบอกว่าทำไมลงโพสต์แบบนี้ ตนก็ขอโทษด้วย เราไปหาเราไม่ใช่บุกรุก เพราะว่าเราติดต่อไม่ได้เลยเราเดือดร้อนมาก เราแค่ไปคุยไปสอบถามตอนที่ยืนคุยกันกับป้าก็ยืนคุยกันปกติ ไม่ได้มีทะเลาะกัน อยากขอชี้แจงอย่างว่า จากการรีวิวของป้าทำให้ยอดขายของร้านลดลงในแอป จากหมื่นกว่าเหลือ 7-8 พันบาท ไม่ได้เป็นแสนอย่างที่มีการกล่าวอ้าง ทางลูกหลานเขาโพสต์ว่าทางเราไปข่มขู่ เราไม่ได้ข่มขู่แต่อย่างใด” น.ส.ธนาวดี กล่าว พร้อมยืนยันว่าโพสต์ของทางร้านไม่ได้มีเจตนาจะประจาน แต่เพียงเพราะอยากหาช่องทางติดต่อลูกค้าเท่านั้น
