เจ้าท่าภูเก็ตแจ้งความเอาผิดเรือต้นเหตุทำน้ำมันไหลลงทะเล กระทบสิ่งแวดล้อมและสัตว์

ภูเก็ต – ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กระจายกันแจ้งความดำเนินคดีในสถานีตำรวจภูธร ทั้ง 3 อำเภอที่ได้รับกระทบจากคราบน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

ข่าวภูเก็ตประชาสัมพันธ์หน่วยงานรัฐ

วันจันทร์ ที่ 7 สิงหาคม 2566, เวลา 18:44 น.

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต รายงาน ความคืบหน้าในการติดตามหาผู้กระทำผิด จากเหตุการณ์พบคราบน้ำมันและน้ำมันดิน ถูกคลื่นพัดเข้าหาฝั่ง จนส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมบริเวณชายหาดและสัตว์น้ำต่าง ๆ

ล่าสุดในช่วงบ่ายวันนี้ (7 ส.ค.66) ที่ สภ.ฉลอง นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฯ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง และยังได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ กระจายกันแจ้งความดำเนินคดีในสถานีตำรวจภูธร ทั้ง 3 อำเภอ ที่มีชายหาด และได้รับกระทบจากคราบน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ความผิดตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 119 ทวิ "ห้ามมิให้ผู้ใดเท ทิ้ง หรือทำด้วยประการใด ๆ ให้น้ำมันและเคมีภัณฑ์หรือสิ่งใด ๆ ลงในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ หรือทะเลสาบอันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน หรือทะเลภายในน่านน้ำไทย อันอาจจะเป็นเหตุให้เกิดเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิต หรือต่อสิ่งแวดล้อม หรือเป็นอันตรายต่อการเดินเรือในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำหรือทะเลสาบดังกล่าว ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องชดใช้เงินค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปในการแก้ไขสิ่งเป็นพิษหรือชดใช้ค่าเสียหายเหล่านั้นด้วย"

อย่างไรก็ตาม นายณชพงศ กล่าวด้วยว่า จากการที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ควบคุมจราจรและความปลอดภัยทางทะเลอันดามัน (CSCA) ตรวจสอบเรือผ่าน ระบบ VTS ที่วิ่งผ่านชายฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ตออกไปเป็นระยะทาง 95 ไมล์ทะเล และมีโอกาสเข้าข่ายที่จะสามารถกระทำความผิดได้ ภายในช่วงระยะเวลา 7 วันย้อนหลัง (ช่วงวันที่ 26 ก.ค. - 3 ส.ค. 66) พบว่ามีจำนวนรวม 81 ลำ โดยแบ่งเป็นเรือสินค้า จำนวน 62 ลำ, เรือ Tanker จำนวน 18 ลำ และเรือ Tug Supply จำนวน 1 ลำ

และจากการประสานข้อมูลกับทัพเรือภาคที่ 3 ซึ่งนำเฮลิคอปเตอร์ทำการบินสำรวจตามแนวชายฝั่งของจังหวัดภูเก็ต ไม่พบคราบน้ำมันเพิ่มเติม คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้น่าจะหมดไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่