เฉียด! ฝนตกถนนลื่น กระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าหักโค่น ก่อนเกิดไฟลุกท่วมคัน เคราะห์ดีคนขับกับ 2 ผู้โดยสารรอด

ภูเก็ต – เจ้าหน้าที่ตำรวจเตือนให้ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ยวดยานพาหนะ โดยเฉพาะในวันที่อากาศไม่เป็นใจ ภายหลังเกิดเหตุหวิดสยองย่างสดเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เนื่องจากฝนตกถนนลื่น ทำให้กระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าหักโคน ก่อนจะเกิดไฟลุกท่วมรถทั้งคัน แต่เคราะห์ยังดีที่คนขับและผู้โดยสารได้รับความช่วยเหลือทันท่วงที แต่เจ้าตัวต้องรับผิดชอบค่าเสียหายเสาไฟฟ้าจำนวน 2 ต้น

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561, เวลา 11:28 น.

วันนี้ (5 ก.พ. 61) ร.ต.อ.รณภูมิ เพิ่มพูน รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวกับข่าวภูเก็ต ว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย กับนายปกิตต์ หนูเศรษฐ์ อายุ 28 ปี คนขับรถกระบะคันเกิดเหตุ พร้อมฝากเตือนประชาชนให้ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง

“คนขับพร้อมด้วยผู้โดยสารอีก 2 รายไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อกล่าวหากับคนขับกระบะไปแล้ว ทราบมาว่ารถยนต์มีประกันชั้น 1 ซึ่งก็ต้องมีการชำระค่าเสียหายให้กับทางราชการต่อไป” ร.ต.อ.รณภูมิ กล่าว

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของคืนวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา บนถนนเทพกระษัตรีฝั่งขาเข้า บริเวณใกล้ร้านเกียรติศักดิ์ท่อพัก ตรงข้ามโรงน้ำแข็งเกาะแก้ว ม.4 ต.เกาะแก้ว มีรถยนต์กระบะโตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ ตอนครึ่ง ป้ายทะเบียนภูเก็ต ในสภาพตะแคงอัดติดกับเสาไฟฟ้าจนตัวรถเสียหายยับ ใกล้กับพบเสาไฟฟ้าหักโค่น 1 ต้นและอีก1 ต้นมีร่องรอยเฉี่ยวชน พบผู้บาดเจ็บคือนายปกิตต์ ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนผู้โดยสารอีก 2 รายไม่ได้รับบาดเจ็บ

ซึ่งในขณะเจ้าหน้าที่เข้าทำการช่วยเหลืออยู่นั้น ได้เกิดเปลวไฟลุกไหม้จากห้องเครื่องรถคันเกิดเหตุ และลุกลามไปติดสายไฟและสายเคเบิ้ลที่ห้อยอยู่บนเสา เจ้าหน้าที่ใช้ถังดับเพลิงเข้าฉีดสกัดหลายครั้งแต่ไฟยังลุกขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่สามารถใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำสกัดได้เพราะมีกระแสไฟฟ้า จึงต้องรอให้ตัดกระแสไฟฟ้า จนไฟลุกท่วมคัน และมีเสียงระเบิดดังเป็นระยะ

จนท.ต้องกันพื้นที่พร้อมประสานให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าทำการตัดกระแสไฟ แต่เนื่องจากการจราจรติดขัดทำให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนทำการตัดกระแสไฟฟ้าสำเร็จ และให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงนำรถดับเพลิงเข้าฉีดสกัด โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเปลวไฟจึงสงบลง จึงเข้าตรวจสอบพบว่าตัวรถได้รับความเสียหายทั้งคัน

ร.ต.อ.รณภูมิ กล่าวว่า จากการสอบถามทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมผิวจราจรในพื้นที่อ.เมืองหลายจุด และรถยนต์คันดังกล่าวได้ขับมาจากฝั่งอนุสาวรีย์ฯ มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองภูเก็ตด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถได้เกิดเสียหลักพุ่งไปชนเสาไฟฟ้า 1 ต้นจนหักโค่น ก่อนหมุนไปชนและอัดติดกับเสาไฟฟ้าอีกต้น จนได้รับความเสียหายดังกล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่