ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เทิดทูน สร้อยสุขภาพันธ์ ผกก.สภ.ฉลอง และ พ.ต.อ.ธงชัย วิไลพรหม ผกก.2 บก. ทท.3 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับตัว นายยูโสบ ขุนสุรินทร์ อายุ 23 ปี ชาว ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง พร้อมด้วยของกลาง กระเป๋าสะพายแบบผ้าสีดำยี่ห้อ Adidas 1 ใบ, ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ระบุชื่อนาย มอริส แกรแฮม ปาร์คเกอร์, ใบแว่นสายตาสีดำยี่ห้อ Playboy 1 อัน และเงินสกุลไทย 220 บาท โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ของผู้อื่น”
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ในเวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชายหาด (ไลฟ์การ์ด) หาดในหาน พบเจอบุคคลต้องสงสัยว่าจะขโมยทรัพย์สินของ นายมอริส แกรแฮม ปาร์คเกอร์ อายุ 68 ปี สัญชาตินิวซีแลนด์ (ผู้เสียหาย) จากชายหาด จึงขอเข้าตรวจสอบ และได้พบว่ากระเป๋าของนักท่องเที่ยวอยู่ในตัว จึงได้แจ้งประสานเจ้าที่ตำรวจสภ.ฉลองไปดำเนินคดี
นายนรา ราษฎร์ธนารักษ์ อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด กล่าวว่า ในขณะที่ตนเองกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ได้รับแจ้งจากนายมอริสว่ากระเป๋าซึ่งวางอยู่บนชายหาดในหานได้หายไป จากนั้นตนและผู้เสียหายจึงได้เดินสอบถามผู้คนในบริเวณนั้นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อมาจึงได้พบกับนายยูโสบ นั่งแอบอยู่บริเวณนั้นพร้อมทั้งแสดงท่าทีน่าสงสัย จึงได้สอบถามว่าได้ขโมยกระเป๋าพนักงานเที่ยวไปหรือไม่ แต่นายยูโสบไม่ตอบคำถามใด ๆ และได้เดินมาที่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขทล 945 ภูเก็ต
ตนพร้อมผู้เสียหายจึงได้เดินติดตามมา และแจ้งให้ผู้ต้องหาเปิดช่องเก็บของใต้เบาะรถดังกล่าว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผู้ต้องหายินยอมเปิดให้แต่โดยดี ปรากฏว่าของกลางดังกล่าวข้างต้นซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บของใต้เบาะรถจริง และผู้ต้องหาเองก็ได้ยอมรับว่าตนเก็บกระเป๋ามาจากชายหาดจริง จากนั้นจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฉลองทราบ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย ร.ต.อ.สมาน พรหมหอม รอง สว.ส.ทท.1. กก.2 บก. ทท.3, ร.ต.อ.จารุวัฒน์ พลรัตน์ รอง สวป.สภ.ฉลอง พร้อมเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุเพื่อรับตัวผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์มายังสภ.ฉลอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบสวนทราบว่ารถจักรยานยนต์ของกลาง ผู้ต้องหาสารภาพว่าได้ลักมาจากห้างเซ็นทรัล ภูเก็ต ฝั่งฟอร์เรสต้า ส่วนป้ายทะเบียน ขทล 945 ภูเก็ต ได้ลักมาจากพื้นที่ สภ.เมืองภูเก็ต ทั้งนี้ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาได้ทราบข้อกล่าวหาและให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ของผู้อื่น”
