โดยมีนายกรีฑา โชติวิชญ์พิพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต และนายพงษ์ศักดิ์ ศิริทัพ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครภูเก็ต ร่วมบัญชาการเหตุการณ์ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตคอยอำนวยความสะดวก ขณะเดียวกันยังมีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ภูเก็ต ได้มาทำการตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย
ที่เกิดเหตุอยู่ลึกเข้าไปท้ายซอย 6 ของชุมชนดังกล่าว ด้วยถนนภายในซอยค่อนข้างคับแคบ ทำให้ไม่สามารถนำรถน้ำและรถดับเพลิงเข้าไปยังจุดเกิดเหตุได้ ต้องไปจอดบนเนินสูงบริเวณรอยต่อระหว่างแนวฉนวนหลุมฝังกลบขยะของศูนย์กำจัดขยะจังหวัดภูเก็ตกับแนวเขตของชุมชน และได้ลากสายยางฉีดน้ำลงมายังจุดที่เกิดไฟไหม้ซึ่งอยู่ริมลำคลอง แต่เนื่องจากบริเวณกำแพงในฝั่งของชุมชนมีเศษไม้เก่ากองอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับเป็นเวลามืดทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้เวลานานมากกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ แต่ก็ต้องมีการเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้เพลิงโหมขึ้นมาอีก เพราะบ้านที่เกิดเหตุสร้างด้วยไม้ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
เบื้องต้นพบมีบ้านที่ถูกไฟไหม้รวม 6 หลัง ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากการจุดเทียนไขหรือไฟฟ้าลัดวงจร ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง
นางถวิล หิรัญพรรณ อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าของบ้านที่ถูกเพลิงไหม้ เล่าว่า ในขณะที่เกิดเหตุตนกับสามีและลูกชายเดินทางกลับมาจากงานศพ ขณะกำลังเดินเข้าไปในบ้าน เห็นมีไฟลุกไหม้บ้านหลังที่อยู่ใกล้กัน จึงตะโกนเรียกให้คนในชุมชนมาช่วยกันดับไฟแต่ก็ไม่สามารถดับได้เนื่องจากไฟลุกเร็วมาก และขณะนั้นก็มีลมพัดมาอย่างแรง และไฟก็ลุกแรงขึ้นเรื่อย ๆ จึงต้องถอยออกมาและคนในชุมชนก็แจ้งดับเพลิงให้เข้ามาช่วยดังกล่าว
ทั้งนี้ นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้า ปภ.ภูเก็ต ฝากเตือนพี่ร้องประชาชนให้ระมัดระวังฟืนไฟช่วงหน้าแล้ง เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง โดยขอเตือนให้พี่น้องประชาชนจงหมั่นตรวจสอบฟืนไฟ ทั้งภายในบ้านและนอกตัวบ้าน และไม่ควรจุดธูปหรือเทียนทิ้งเอาไว้ภายในบ้าน (อ่านเพิ่มเติม คลิก)