เพลิงไหม้ร้านซักรีดภายวอด 1 คูหา รถยนต์และทรัพย์สินเสียหายหลายแสนบาท เคราะห์ดีไม่มีคนเจ็บ

ภูเก็ต - เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันนี้ (7 ก.ค. 60 ) ร.ต.ท.หญิง ขวัญสิรินาฎ ไทยราช พนักงานสอบสวนสภ.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านซักรีดไม่มีชื่อภายในซอยนานาชาติ (บ่อแร่) ต.วิชิต จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลวิชิต และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เข้าสนันสนุนนก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เอกภพ ทองทับ

วันศุกร์ ที่ 7 กรกฎาคม 2560, เวลา 12:12 น.

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลตำบลวิชิตนำรถดับเพลิง 5 คันเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบต้นเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ที่ชั้น 1 ของอาคารพานิชย์ เลขที่ 78/184 และกำลังลุกลามขึ้น ชั้น 2 อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงใช้น้ำฉีดสกัดในเบื้องต้นจนไฟมอดลงเหลือเพียงกลุ่มควัน ก่อนเข้าทำการตรวจสอบหาต้นเพลิง

โดยขณะตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบถังแก๊สขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ภายในบ้านกำลังรั่ว มีกลิ่นฟุ้งกระจาย จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงออกจากจุดดังกล่าว และสั่งให้กันคนที่อยู่บริเวณโดยรอบและใกล้เคียงถอยห่างจากหน้าบ้านไปประมาณ 30 เมตร ก่อนเจ้าหน้าที่ผจญเพลิง ซึ่งพร้อมชุดอุปกรณ์ป้องกันจะเข้าทำการปิดวาล์วถังแก๊สและน้ำออกมาด้านนอกได้สำเร็จ จึงเข้าฉีดสกัดเพิ่มจนไฟมอดดับลง รวมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

ตรวจสอบภายในบ้านหลังเกิดเหตุพบซากรถยนต์ เก๋งมิตซูบิชิ แอททราจ (Attrage ) สีขาว เสียหายทั้งคัน ใกล้กันพบ เครื่องอบผ้า 1 เครื่อง และผ้าเก่าและถังน้ำยาได้รับความเสียหาย เสียหายกระจัดกระจาย และตัวบ้านถูกเพลิงเผาไหม้

สอบถาม นส.กุสุมา เวทางควิชญ์ อายุ 28 ปีเจ้าของบ้านและทรัพย์สินที่เสียหายระบุว่า ตนเองได้เช่าอาคารพานิชย์ดังกล่าว จำนวน 4 หลังติดกันเพื่อทำธุรกิจซักรีด โดยหลังที่เกิดเพลิงไหม้ใช้เป็นที่จอดรถและเก็บของ ห้องถัดมาอีก 3 หลังใช้เป็นห้องซักรีด และพักอาศัยอยู่ชั้นบน ขณะเกิดเหตุในเวลาประมาณ 08.00น.ตนได้พักอยู่ชั้นบนของห้อง 78/186 และ 78/187 กับครอบครัวประมาณ 5 คน

จากนั้นได้ยินเสียงตะโกนว่าไปไหม้จึงรีบวิ่งลงมาดู ก่อนรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าได้เกิดประกายไฟติดขึ้นที่สายไฟหน้าบ้านก่อนจะลุกลามไปติดรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่ก่อนจะลุกลามติดตัวบ้าน ซึ่งความเสียหายรวมทั้งรถและเครื่องอบผ้าประมาณ 5 แสนบาท ยังไม่รวมตัวบ้านที่ได้รับความเสียหาย เคราะห์ดีที่ไม่มีคนเจ็บหรือเสียชีวิต

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าทำการตรวจสอบหาสาเหตุ อย่างละเอียดอีกครั้ง

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่