เพิ่มข้อหามีอาวุธและเครื่องกระสุนคู่หูขวานซิ่ง ตร.ขยายผลต่อ อาจส่งมอบอีกหลายกระทง

ภูเก็ต – สองขาโจ๋ขวานซิ่งยอมรับเหตุหัวร้อนทุบรถกู้ชีพอาสาสมัครมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกบีบแตรเตือนขณะขับจักรยานยนต์เปลี่ยนเลน สารภาพทำไปเพราะฉุนถูกบีบเเตรไล่ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในฐานความผิด มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เเละขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อกล่าวหาอื่น ๆ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

เอกภพ ทองทับ

วันศุกร์ ที่ 24 พฤษภาคม 2562, เวลา 14:18 น.

จากกรณี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (23 พ.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Kaew Detnarong หรือ นายเดชณรงค์ ส่งแสง กรรมการสภาทนายความภาค 8 ซึ่งใช้เวลาว่างทำหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้โพสต์เรื่องราวที่ตนเองได้ประสบ ในหัวข้อ ‘ฝากตามหาตัวกันหน่อยครับ มีคลิปกล้องหน้ารถหลังรถ’ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 62 เวลาประมาณ 16.45 น. ในขณะที่ตนเองนั้นถูกสองหนุ่มขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่าติดตามรถพยาบาลอาสาสมัครกู้ชีพของตน ก่อนจะใช้อาวุธขวานฟันไปที่กระจกรถด้านหลังและด้านข้าง และขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

ภายหลังเกิดเหตุเจ้าทุกข์จึงได้เข้ามาแจ้งความไว้ที่ สภ.วิชิต จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.วิชิต และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ติดตามตัวสองวัยรุ่นผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามข้อกล่าวหาว่า “ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยและทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ” ก่อนจะขออำนาจศาลจังหวัดภูเก็ตอนุมัติหมายจับสองหนุ่ม จนสามารถรวบตัวได้ดังกล่าว (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต นำโดย พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภจว.ภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.วิชิต เดินทางไปควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย คือนายซากิ๊บ หรือกิ๊บ ยอมใหญ่ อายุ 22 ปี และนายสุทธิ หรือเบนซ์ ศรีพูล อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดตรัง ได้จากบ้านเช้าเลขที่ 5/4 ม.6 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต พร้อมตรวจค้นภายในห้องพัก พบของกลางประกอบด้วย ชุดเเละหมวกที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ รวมทั้งมีดเเละขวานที่ใช้ก่อเหตุ นอกจากนี้ ยังพบอุปกรณ์เสพกัญชา อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1กระบอก พร้อมกระสุนปืน 2นัด ระเบิดตะปู (ประดิษฐ์เอง) 1 ลูก เเละรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ป้ายทะเบียน 1 กถ 3966 ตรัง ที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวนภูธร จ.ภูเก็ต ในช่วงบ่ายของวันที่ 23 พ.ค.

จากนั้นพล.ต.ต.วิศาล พันธุ์มณี ผบก.ภจว.ภูเก็ต เเละ พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รองผบก.ภจว.ภูเก็ต ได้ร่วมสอบสวนพร้อมแถลงข่าวการจับกุม โดยมี นายเดชณรงค์ ส่งแสง ผู้เสียหายซึ่งเป็นทนายความ และเป็นอาสาสมัครมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตประมาณ 30 นายร่วมรับฟัง

เบื้องต้นผู้ก่อเหตุทั้งสองให้การสารภาพ ว่าได้กระทำจริง เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกบีบแตรไล่ เจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนสภ.วิชิตดำเนินคดีในข้อ กล่าวหาว่า “ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยและทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ” พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในฐานความผิด มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เเละจนท.อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อกล่าวหาอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลังต่อไป

นายเดชณรงค์ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ได้ร่วมกันจับกุม 2 ผู้ต้องหาได้ในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมกับชี้แจงการการบีบแตรนั้นหมายถึงการตักเตือน ไม่ได้หมายความถึงการด่าทอเพื่อนร่วมทาง

“การบีบแตรมันไม่ใช่เป็นการด่า คนไทยเราบางทีได้ยินเสียงแตรคิดว่าเขาด่า บางทีคือเขาเตือนว่า มีรถอยู่ คุณออกมาจะโดนชนนะ คือให้ใจเย็น ๆ กันหน่อย ถ้าไปเจอคนที่มีอาวุธปืนก็คงมีคนตายกันสักคน หรือถ้าเขาพกพาอาวุธปืน ได้ข่าวว่าเขาได้พูดกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปจับกุมว่าถ้าเขามีปืนเขาก็ยิง ป่านนี้ผมเองน่าจะไม่ได้มายืนให้สัมภาษณ์อยู่ตรงนี้” ผู้เสียหายกล่าว “รู้สึกดีใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถจับกุมได้ เป็นกำลังใจที่ดีให้กับชาวบ้าน”

ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองรู้สึกกลัว พร้อมกับยืนยันหนักแน่ว่า ตนในฐานะคนขับรถพยาบาลถูกฝึกมาช่วยคนไม่ใช่ทำร้ายคน

“ตอนนั้นยอมรับว่ากลัว เพราะจากพฤติการณ์แล้ว ถ้าเขาทุบกระจกได้แล้วเข้ามาในรถได้ ผมตายแน่นอน ถามว่าทำไมไม่ชนเขา ถ้าผมชนเขาก็ได้รับอันตราย ผมขับรถพยาบาล ถูกสอนมาให้ช่วยคน เราเอารถพยาบาลไปทำร้ายคนมันไม่ใช่” เขากล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่