โดยก่อนหน้านี้ ก็ได้ยินเสียงทุบตีมาตลอดโดย เด็กอึ เด็กเยี่ยว หรือร้อง ก็จะโดนทุบตี ตนเข้าใจว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว แต่ว่าแบบนี้ คนในพื้นที่รับไม่ได้จริงๆ สงสารเด็กมาก ๆ และสังเกตว่า คนทุบตีเด็กอาจมีอาการมึนเมาหรือไม่ ซึ่งตนเองก็มีลูก และเข้าใจดี ในกรณีนี้ ถ้าเกิดว่าผัวเมียคู่นี้ไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะเลี้ยงดูเด็ก หรือว่าเลี้ยงดูไม่ได้จริงๆ ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กเข้ามาตรวจสอบ เข้ามาช่วยดูแล และไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไม ถึงจะต้องทุบตีทำร้าย เด็กวัยเพียงแค่ 2 ขวบขนาดนี้ ซึ่งล่าสุดนั้นก็ทุบตีจนสลบจนเพื่อนบ้านต้องเรียก 1669 เพื่อรีบมารับตัวเด็กไปรักษาที่โรงพยาบาล
ล่าสุดวันนี้ (14 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของน้องที่พ่อแม่ทำร้ายร่างกาย พบกับเพื่อนบ้าน ที่โทรแจ้งรถพยาบาลให้มารับตัวน้องไปรักษาที่โรงพยาบาล เผยว่า เหตุการณ์มีทุกวันน้องจะเป็นคนที่ฉี่ที่ไม่บอก พ่อแม่จะตีทุกวันทุกครั้งที่น้องฉี่น้องถ่าย เพราะน้องไม่ค่อยบอก บางวันได้ยินเสียง บางวันก็ได้เห็นกับตา
“พ่อแม่ตีทุกวัน ตีมางานนับเดือนแล้ว จนถึงเมื่อวานซืนชาวบ้านละแวกใกล้เคียงทนไม่ไหวและน้องนอนสลบหลังจากโดนทุบตีจึงโทรแจ้ง 1669 มารับ ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งความ”
ล่าสุดช่วงเที่ยงวันนี้ นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.พรรคประชาชน เขต 2 พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรรถวัฒน์ สุวรรณรัตน์ รอง ผกก.สส.สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วิชิต ได้มาเชิญตัว แม่ของน้องไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.วิชิต แล้ว
สอบถามนายวรพล สังข์ทอง 53 ปี เพื่อนบ้านซึ่งอยู่บ้านติดกันเล่าว่า เรื่องทำร้ายร่างกายบางครั้งคนได้ยินเกือบทุกวัน เรื่องทุบตีรุนแรงกันไม่เคยเห็น แต่เรื่องดุด่าเป็นประจำ ตนเคยเตือนเพราะตนรับไม่ได้ ถึงตนจะไม่ได้เป็นอะไรกับเขา ตนเคยไปเตือนเขาว่าเด็กยังไม่รู้เรื่อง บางครั้งจะไปดุไปด่าหรือไปทุบตียังทำไม่ได้ ขอให้ค่อย ๆ บอกเขา ค่อย ๆ สอนเขา หลังจากตนไปบอกเขาก็เถียง แต่ตนก็พูดด้วยเหตุผลให้ฟัง ลูกไม่รู้เรื่อง ยังเด็กเกิน ไม่งั้นเด็กอนาคตไม่รู้จะเอาอะไรมารับ ในสมองรับแต่สิ่งไม่ดี โดนทุกวัน มองเห็นเด็กเป็นเด็กที่เซื่องซึม แต่ครั้งนี้ตนไม่รู้เรื่องเลยเพราะไปขายของที่ตลาดท้ายรถ กลับมาประมาณสองทุ่มก็เห็นมีคนมาเต็มจึงรู้ว่าพ่อแม่ทำร้ายน้องอีกแล้ว
ด้าน นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.พรรคประชาชน เขต 2 จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า วันนี้เป็นมาลงพื้นที่เป็นอีกเคสหนึ่งที่เกี่ยวกับเด็ก พ่อแม่ทำร้ายร่างกายกับเด็ก ในตอนนี้เด็กได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตอนนี้สังคมเราเกิดปัญหาภายในครอบครัวและสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง ทำให้ครอบครัวเกิดปัญหา สุดท้ายก็มาลงกับเด็ก ขณะนี้จังหวัดภูเก็ตมีเคสเด็กจำนวนมากมาย อย่างเช่นที่ตำบลราไวย์ก็ยังไม่คลี่คลาย ตอนนี้มาถึงตำบลวิชิตเป็นเคสที่ทำร้ายร่างกายกับเด็กซึ่งปัญหาภายในครอบครัวเราต้องใส่ใจ เพราะเยาวชนต้องเติบโตเป็นกำลังของชาติ
สำหรับเคสนี้วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ รอง ผกก.สภ.วิชิต ได้นำตัวผู้ปกครองเพื่อไปสอบถามถามถึงข้อมูลในการทำร้ายร่างกายเด็กว่าเหตุผลอย่างไร เดี๋ยวตนจะติดตามไปที่ สภ.และตอนนี้เป็นผสานทาง พม. บ้านพักเด็ก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูแลเด็ก และเจ้าหน้าที่จิตวิทยา เพราะเรื่องของเด็กเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากเป็นวัยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ส่วนปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติก็ลุกลามไปในหลาย ๆ พื้นที่ รวมไปจนถึงครอบครัวทำให้พ่อแม่ที่มีการเสพหรือมีการใช้สารเสพติด มีผลกระทบต่อเยาวชนกระทบต่อลูกหลาน ทำให้ต้องเร่งปราบปราม ท่านใดมีเบาะแสก็แจ้งเข้ามาได้ ถ้ารู้สึกว่าไม่ปลอดภัยก็แจ้งเข้ามาได้ ทางเราจะปกปิดข้อมูลของท่านไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงาน ป.ป.ส.และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต
ล่าสุดบ่ายวันนี้ (14 ต.ค.67) หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต ได้เชิญตัวแม่ของเด็กและพ่อไปที่ สภ.วิชิต เพื่อสอบปากคำและตรวจสอบสารเสพติด ผลปรากฏว่าทั้งพ่อและแม่มีผลตรวจเป็นบวก
