การประกอบพิธี “ยกเสาโกเต้ง” ซึ่งเป็นไผ่ตรงสูงตระหง่านปักหน้าศาลเจ้า ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันติดทองเปลวที่ลำต้นจนเหลืองอร่าม เพื่ออัญเชิญตะเกียงไฟเทวดาทั้ง 9 ขึ้นสู่ยอดเสา ท่ามกลางม้าทรงที่แสดงอิทธิฤทธิ์ใช้ของมีคมฟันแทงตามร่างกาย ม้าทรงประจำองค์เทพต่าง ๆ ได้ส่งสัญญาณถึงเวลาฤกษ์งามยามดี พร้อมทั้งเสียงเป่าปี่ เสียงตีฉิ่ง ตีกลองดังสนั่นไปทั่วศาลเจ้า ส่วนเสาโกเต้งที่ทำมาจากต้นไม้ไผ่ตงขนาดใหญ่ ที่มีผู้คนที่ศรัทธาได้ติดทองไว้ก่อนนั้น แล้วถูกยกขึ้นผูกกับฐานที่โคนเสา
ต่อจากนั้นมีการอัญเชิญเหนี่ยวซั่ว (ร่มฉัตรจีน)และตะเกียงทั้ง 9 ดวงออกจากศาลเจ้า เพื่อนำไปผูกยึดกับปลายไม้ไผ่ ก่อนร่วมดึงขึ้นสู่ยอดเสา โดยมีเหล่าบรรดาม้าทรงที่มีองค์เทพประทับอยู่ในร่างได้ใช้อาวุธทิ่มแทงและฟันไปตามร่างกาย เพื่อแสดงอิทธิฤทธิ์อย่างน่าหวาดเสียว
หลังจากที่ยกเสาโกเต้ง สัญลักษณ์เริ่มต้นประเพณีถือศีลกินผักเสร็จสิ้น ประชาชนผู้ร่วมพิธีกรรมต่างแยกย้ายกัน การยกเสาโกเต้ง ไว้หน้าศาลเจ้านั้น เป็นการประกอบพิธีอัญเชิญ เจ้ายกฮ่องซ่งเต่ หรือพระอิศวร และกิ๋วอ๋องไต่เต่ หรือพระผู้ใหญ่ทั้งเก้า มาเป็นประธานในพิธี และจะนำตะเกียง 9 ดวง ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มพิธีไว้บนเสาโกเต้ง
จากนั้นจะเป็นการทำโขกุ้น เป็นพิธีการเลี้ยงทหารซึ่งจะทำพิธีในวันที่ 3 วันที่ 6 และวันที่ 9 พิธีเหลี่ยมเก้ง เป็นการสวดมนต์ตั้งแต่เมื่อกิ๊วฮ๋องไต่เต้เข้าประทับในอ๊ามหรือศาลเจ้า พิธีอัญเชิญลำเต้า-ปักเต้า หรือเทวดาผู้กำหนดเวลาเกิดเวลาตาย พีธีอาบน้ำมัน ขึ้นบันไดมีด พิธีลุยไฟ พิธีสะเดาะเคราะห์ การทรงพระซึ่งเป็นการเชิญเจ้ามาประทับ ในร่างของม้าทรง และแสดงอิทธิฤทธิ์ ด้วยการทรมานร่างกาย ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อรับทุกข์แทนผู้ถือศีลกินผัก และเพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนกิจกรรมสำคัญที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วไป คือพิธีแห่พระรอบเมืองศาลเจ้าต่าง ๆ และพิธีส่งพระในคืนสุดท้ายของประเพณีถือศีลกินผัก
สำหรับการร่วมยกเสาโกเต้ง ซึ่งชาวจังหวัดภูเก็ตเชื่อในการร่วมยกเสาโกเต้งเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว และมีความเชื่อว่าผู้ที่ได้เข้ามาร่วมในพิธี จะถือว่าได้เป็นผู้ร่วมพิธีกินผักอย่างสมบูรณ์ในปี 2563
สำหรับงานประเพณีถือศีลกินผัก (กินเจ) จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่ได้ยึดถือกันมาช้านาน ปีนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 25 ตุลาคม โดยยึดหลักความเชื่อและประเพณีดั้งเดิม มุ่งหมายให้ตั้งมั่นปฏิบัติจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ ไม่เบียดเบียน หรือก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญและความเสียหายให้แก่ผู้อื่น เพิ่มเติมคือการจัดงานในปีนี้ดำเนินการจัดงานภายใต้วิถีชีวิตแนวใหม่ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค-19 กระทรวงสาธารณสุข
