เริ่มแล้วด่าน 7 วันอันตรายภูเก็ต เข้มงวดเพื่อความปลอดภัยปีใหม่

ภูเก็ต - เริ่มแล้วด่าน 7 วันอันตราย ช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเช้าของวันนี้ (27 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านบริเวณถนนเทพกระษัตรี ขาออกนอกเมือง หน้าอาคารเมืองใหม่ ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นด่านหลักของ สภ.เมืองภูเก็ต

เอกภพ ทองทับ

วันศุกร์ ที่ 27 ธันวาคม 2562, เวลา 10:06 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

สำหรับในช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ 2563 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้กำหนดตั้งจุดตรวจหลัก 11 จุด จุดตรวจรอง 3 จุด และจุดบริการ 10 จุด ตามแผนป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปีใหม่ มีการตั้งจุดตรวจหลักแบบบูรณาการร่วมครอบคลุมทั้ง 3 อำเภอ โดยมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวก และจัดการจราจรทั้งสิ้น 4 ทีมรวม 675 นาย (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

โดยเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วานนี้ (26 ธ.ค.) นายนิพนธ์บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเล ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563 จังหวัดภูเก็ต และปล่อยขบวนรถรณรงค์ช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมี นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนนจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมพิธีฯ ณ หน้าอาคารศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

นายภัคพงศ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่จังหวัดภูเก็ตกำหนดดำเนินการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเล ช่วงเทศกาลบีไหม่ พ.ศ.2563 ในระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 62 ถึง 2 ม.ค. 63 รวม 7 วัน โดยมีเป้าหมายเพื่อบูรณาการความร่วมมือในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเล รวมทั้งสร้างความปลอดภัยแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งปวงให้มากทีสุต โดยฉพาะการลดจำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเล จำนวนผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ให้เหลือน้อยที่สุด

ด้านนายนิพนธ์ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน มีการเฉลิมฉลองกันมาก และยังเป็นช่วงที่พี่น้องประชาชนถือโอกาสเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ส่งผลให้มีการใช้รถใช้ถนนมากกว่าช่วงปกติ และมักก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายทั้งทางบกและทางทะเล

"จากสถิติที่ผ่านมาพบว่า อุบัติเหตุส่วนใหญ่ มีสาเหตุมาจาก การเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกำหนด มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย ตัดหน้ากระชั้นชิด การขับรถย้อนศร ไม่มีใบขับขี่ และมีอีกไม่น้อยที่เกิดจากความเหนื่อยล้จากการเดินทางและการขับขี่ยานพาหนะติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุทางถนน 3 อันดับแรก คือรถจักรยานยนต์ รถปิคอัพ และรถเก๋ง” นายนิพนธ์ กล่าว

รมช.มท. กล่าวอีกว่า ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่จะเป็นภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชน สมาคม มูลนิธิ และเครื่อข่ายด้านความปลอดภัยทางถนน ผู้นำท้องที่ ตลอดจนพี่น้องประชาชนทุกทน ร่วมมือกันบังคับใช้และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะตามมาตรการเพื่อความปลอดภัย 10 รสขม ได้แก่ 1) ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 2) ขับรถย้อนศร 3) ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร 4) ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 5) ไม่มีใบขับขี่ 6) แชงในที่คับขัน 7) เมาสุรา8) ไม่สวมหมวกนิรภัย 9) มอเตอร์ไชค์ไม่ปลอดภัย 10) ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ เพื่อป้องกันไม่ให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

"ขอขอบคุณทุกภาคส่วนโดยเฉพาะองค์กรภาคีเครือข่าย และอาสาสมัครทุกท่านที่ได้เสียสละ ทุ่มเทแรงใจ แรงกาย เพื่อปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันตลอด 7 วัน นับจากวันนี้เป็นต้นไป ขอเป็นกำลังใจให้แก่ ทุกท่านในการปฏิบัติงานให้สำเร็จลุล่วงตามที่ได้ตั้งใจ และขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่า “ชีวิตจะอยู่รอดและปลอดภัย ถ้าทุกคนใส่ใจในกฎจราจร” นายนิพนธ์ กล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่