แจ้งข้อหาผู้ขับขี่เรือสปีดโบ๊ทชนเสาสัญญาณ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ

ภูเก็ต - ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เผยความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุเรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยวชนตอหม้อเสาสัญญาณไฟกลางทะเล เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาผู้ขับขี่เรือตามมาตรา 300 และ 390 ในข้อหากระทำการด้วยความประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีปรับไม่เกิน 60,000 บาท

ข่าวภูเก็ตประชาสัมพันธ์หน่วยงานรัฐ

วันเสาร์ ที่ 20 พฤษภาคม 2566, เวลา 14:13 น.

ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 66 ณ ห้องประชุมมุขหน้าชั้น 4 นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พลตำรวจตรีเสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, นางรัชดาภรณ์ โออิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต, นายอุดมพร กาญจน์หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต, นายอดูลย์ ระลึกมูล เจ้าพนักงานตรวจเรือชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต, นาวาเอก กฤษณ์ เคลือบมาศ รอง ผอ.ศรชล จังหวัดภูเก็ต, นภดล อาวุธกรรมปรีชา นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 และนางสาวธีราภรณ์ นกแก้ว ผู้อำนวยการ สำนักงาน คปภ.จังหวัดภูเก็ต ร่วมแถลงความคืบหน้า กรณีเรือสปีดโบ๊ทเกิดอุบัติเหตุชนตอหม้อเสาสัญญาณไฟกลางทะเล ห่างจากฝั่งประมาณ 100 เมตร ซึ่งใกล้กับท่าเที่ยบเรืออ่าวฉลอง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย 

โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ประสบภัย จำนวน 37 รายเป็นคนไทย 4 ราย, รัสเซีย 21 ราย, คาซัคสถาน 9 ราย, ฮ่องกง 1 ราย, จีน 1 ราย และยูเครน 1 ราย โดยเป็นผู้ป่วยแบ่งเป็นระดับสีขาว 2 ราย (คาซัคสถาน1 ราย ไทย 1 ราย) สีเขียว 13 ราย, สีเหลือง 16 รายและสีแดง 6 ราย (เป็นคนไทย 2 ราย และรัสเซีย )

ขณะนี้มีผู้ประสบภัยรักษาตัวในโรงพยาบาล 16 ราย โดยรักษาอยู่ในโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 11 ราย, โรงพยาบาลดีบุก 1 ราย, โรงพยาบาลกรุงเทพ 1 ราย, โรงพยาบาลมิชชั่น 3 ราย ในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการสอบปากคำพยานแล้ว 19  ราย พบพยานทุกคนให้ข้อมูลตรงกันว่า ผู้ขับขี่เรือมีพฤติกรรมขับขี่เรือด้วยความประมาท และอยู่ในระหว่างการรอผลตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามาตรา 300 และ 390 ในข้อหา “กระทำการด้วยความประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ” โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท ซึ่งเป็นอำนาจของศาลแขวงภูเก็ต

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่