โดยมี นายกรณ์พิทักษ์ อาสน์สุวรรณ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ตเป็นตัวแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตรับหนังสือ และมีหน่วยงานความมั่นคงเข้าดูแลความสงบเรียบร้อย ณ บริเวณหน้าศูนย์ราชการศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
จากนั้นทางผู้ประกอบการแท็กซี่มิเตอร์ได้ส่งตัวแทนจำนวน 10 คน เข้าร่วมประชุม ณ ศูนย์ดำรงธรรม ชั้น 1 ของศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ซึ่งผู้ประกอบการขับขี่รถแท็กซี่มิเตอร์ (ป้ายเหลือง) ในจังหวัดภูเก็ตได้รับผลกระทบ จากการนำรถที่ผิดกฎหมายมาให้บริการผ่านแอปพลิเคชันเพื่อรับส่ง ผู้โดยสาร ตามที่กรมการขนส่งทางบกจังหวัดภูเก็ตรับรองแล้วและที่ยังไม่ได้รับการรับรอง ในขณะนี้อีกเป็นจำนวนมากนำมาแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมกับรถแท็กซี่มิเตอร์ดั้งเดิม อันเป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาทให้เห็นกันบ่อย ๆ ตามที่มีการเสนอข่าวในช่องทางต่าง ๆ ให้เห็นอยู่ตลอดเวลา
ในการนี้ ทางผู้ขับขี่รถแท็กซี่มิเตอร์ (ป้ายเหลือง) จึงได้ทำหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรม มายังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้น ในเรื่องดังต่อไปนี้
1. ระงับการเพิ่มรถที่ใช้แอปพลิเคชันที่ทางกรมการขนส่งทางบกจังหวัดภูเก็ตอนุญาต (ร.ย 18) เนื่องจาก มีจำนวนมากจนเกินไปและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน
2. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและลงตรวจจับรถที่ผิด (รถป้ายขาวส่วนบุคคล) ที่ไม่ได้นำรถมาจดทะเบียนเพื่อวิ่งผ่านแอปพลิเคชันให้ถูกต้อง ตามขนส่งทางบกได้ประกาศไว้ แล้วนำมาวิ่งรับ-ส่ง ผู้โดยสาร
3. ให้ช่วยควบคุมการนำรถยนต์ป้ายดำ มาขึ้นทะเบียนเป็นรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากจนเกินไป จนทำให้รถแท็กซี่มิเตอร์ (ป้ายเหลือง) ในจังหวัดภูเก็ตได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากไม่สามารถวิ่งรถเพื่อหาเงินมาส่งค่างวดรถได้ เนื่องจากรถแท็กซี่มิเตอร์ (ป้ายเหลือง) มีต้นทุนที่สูงกว่ารถป้ายดำที่นำมาวิ่งผ่านแอปพลิเคชัน
4. ต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ช่วยเป็นสื่อกลางในการเจรจากับ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต ให้มีการจัดวางเคาน์เตอร์รถแท็กซี่มิเตอร์ ในสนามบินนานาชาติภูเก็ต ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม สะดวกในการเรียกใช้บริการของผู้โดยสารกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ตลอดจนให้มีเคาน์เตอร์รถแท็กซี่มิเตอร์ให้บริการผู้โดยสารในสนามบินนานาชาติภูเก็ต ฝั่งอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศด้วย
5. ต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อปรึกษาหารือและจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของรถแท็กซี่มิเตอร์ (ป้ายเหลือง) ในจังหวัดภูเก็ตร่วมกันไม่ว่าจะเป็น หัวหน้ากรมการขนส่งทางบกจังหวัดภูเก็ต, ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต, ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, ตัวแทนคนขับรถแท็กซี่มิเตอร์ (ป้ายเหลือง) ในจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน
นายอับดุลวาฮับ กล่าวว่า แท็กซี่มิเตอร์จังหวัดภูเก็ตได้รับความเดือดร้อน จึงมายื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ ถึงกระทรวงคมนาคม ว่ารถแท็กซี่มิเตอร์จังหวัดภูเก็ตมีความเดือดร้อนมี 4 เรื่องหลัก ๆ ด้วยกัน
“เมื่อก่อนใช้รถได้ 9 ปี ตอนนี้อนุโลมมาให้ใช้ 12 ปี เพราะเป็นช่วงโควิด บางคันก็ใกล้จะหมดอายุเพราะใกล้ครบ 12 ปี ต้องไปซื้อรถใหม่มาตามที่ซื้อรถใหม่มาต้องมีทั้งเงินดาวน์ เป็นแสนเงินผ่อนประมาณ 20,000 กว่าบาทต่อเดือน ถ้ามีลูกค้าไม่มีปัญหาแต่ปัญหาตอนนี้เกิดตรงที่ไม่มีลูกค้า เมื่อก่อนที่เราอยู่ได้เพราะไม่มีรถวิ่งผ่านแอปพลิเคชัน หรือมีน้อยมาก ตอนนี้รายรับไม่พอกับรายจ่ายตอนนี้หนักมากจึงมาร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ว่าฯ ให้ส่งเรื่องถึงกระทรวงคมนาคม”
“เมื่อก่อนเราได้ทางออกจากสนามบินและสามารถหาจากที่ต่าง ๆ ได้ แต่ตอนนี้ไม่สามารถหาได้เพราะส่วนมากลูกค้าไปเลือกผ่านแอปพลิเคชัน เพราะคิดว่าแอปฯวิ่งถูกกว่า เราไม่ได้ว่าอะไรแต่ที่ติดปัญหารถส่วนบุคคลที่มาวิ่งรับลูกค้า พวกเราได้รับความเดือดร้อนจริง ๆ อยากให้ทางขนส่งระงับการจดทะเบียนป้ายดำก่อน เพราะตอนนี้รถเหล่านั้นมีมากกว่ารถแท็กซี่มิเตอร์ที่มีอยู่ในจังหวัดภูเก็ต” นายอับดุลวาฮับ
“ความเดือดร้อนตกอยู่ที่พวก เราขึ้นแท็กซี่มิเตอร์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย รถป้ายเหลืองค่าประกันก็สูงกว่า ค่าประกันประมาณ 30,000 กว่าบาท อยากให้ทบทวนตรงนี้ถึงการที่เรามีแท็กซี่มิเตอร์อยู่แล้ว แล้วเอารถไม่ถูกต้องตามกฎหมายรถส่วนบุคคลมาวิ่งผ่านแอปฯ ทำให้พวกเราเดือดร้อนอย่างมาก”
